เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 16 เม.ย.65 พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.สส. ภ.2 ร่วมกับ พ.ต.อ.อภิชนันท์ วัฒนวรางกูร ผกก.สภ.เมือง ระยอง พร้อมกำลังตำรวจ บุกเข้าตรวจสอบ โอเพ่น มายน์ ผับ ถ.ราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมืองจ.ระยอง หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการเปิดเกินเวลา มีนักท่องราตรีเข้าไปมั่วสุมกันจำนวนมาก
เมื่อเดินทางไปถึงสถานบันเทิงดังกล่าว ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่ บริเวณลานจอดรถพบมีรถยนต์ รถจยย.จอดกันหลายสิบคัน จึงแสดงตัวเข้าไปตรวจสอบภายใน ซึ่งด้านหน้ามีการ์ดเฝ้าประตูอยู่ จึงแสดงตัวเข้าไปตรวจภายใน เข้าไปถึงกับผงะ เสียงเพลงดังกระหึ่ม กลิ่นควันบุหรี่และยาเสพติดลอยฟุ้ง พบนักเที่ยวทั้งชายหญิงกำลังมึนเมา ยืนเต้นกันอย่างสนุกสนาน พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถึงกับถอยกรูดเตรียมวิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงสั่งปิดเพลงและเปิดไฟทันที พร้อมควบคุมรักท่องราตรีชายหญิง รวมทั้งหมด 59 ราย ไว้ตรวจสอบ
จากการตรวจสอบภายในทั้งหมด พบยาเสพติดถูกทิ้งเกลื่อนพื้น โดยมีทั้วยาเค 4 ถุง ยาอี 2 เม็ด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัว นักเที่ยว และ พนักงานในผับ ไปทำการสอบ สวน และ ดำเนินคดีที่ สภ.เมือง ระยองและ จากการตรวจปัสสาวะพบ สีม่วง 5 ราย เป็นผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 1 คน โดยหนึ่งคนเป็นคนสัญชาติเกาหลี จึงควบคุมตัวแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านพ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก. สส.ภ.2 ได้กล่าวว่า จากการบัญชา การของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รองผบช.ภ.2 ตามนโยบายของ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ให้เข้มงวดตรวจสอบจับกุมสถานบันเทิงเปิดเกินเวลา ตามนโยบายลาดตระเวนออนไลน์ เพื่อป้องกันการมั่วสุมและเป็นที่แพร่เชื้อโควิด19 หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีสถานบันเทิงชื่อ โอเพ่นมาย เปิดเกินเวลา มีนักเที่ยวเข้ามามั่วสุมกันจำนวนมากทุกคืน และ มีการประกาศเชิญชวนนักเที่ยวตามออนไลน์ด้วย หลังสืบทราบว่าเป็นความจริง เวลา 02.30 น.วันที่ 16 เม.ย.จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค2 และ คอมมอนโด จำนวน 30 นาย ประสานทางเจ้าหน้า ที่ตำรวจ สภ.เมือง ระยอง เข้าตรวจสอบจับกุม ซึ่งสามารถจับกุมนักเที่ยวและพนักงานได้ทั้งหมด 59 คน โดยพบสารเสพติดและมีสารเสพติดรวม5ราย จึงส่งทั้งหมดดำเนินคดีที่ สภ.เมือง ระยอง ต่อไป
เบื้องต้นได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด 59 ราย ดำเนินคดี โดยแยกเป็น 54 ราย ดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ 1.ชุมนุม หรือ ทำกิจกรรม หรือมั่วสุม ในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พรก.บริหารราชการในสถาน การณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 2.ฝ่าฝืนคำสั่งจ.ระยอง เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกัน และ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 ส่วนอีก 5 ราย ดำเนินคดี 5 ข้อหา 1.ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาอี) อันเป็นการฝ่าฝืนมาตราที่107 2.ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2(ยาเค) อันเป็นการฝ่าฝืนมาตราที่107 3.เสพยาเสพติดให้โทนษประเภท2 เพื่อเสพ อันเป็นการฝ่าฝืนตามมาตรา 104 และ4.ชุมนุม หรือ ทำกิจกรรม หรือมั่วสุม ในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 5.ฝ่าฝืนคำสั่งจ.ระยอง เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกัน และ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 โดยเบื้องต้นไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด19
Discussion about this post