หนุ่มคุ้มคลั่ง ปีนหลังคาบ้านงัดกระเบื้องปาใส่จนท. สุดท้ายพลาดร่วงลงพื้นโชคดีไม่ถึงตาย 

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 20 เม.ย.65 จนท.ตำรวจ สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจากประชาชน มีชายคุ้มคลั่ง ปีนหลังคาบ้านทุบทำลายทรัพย์สินข้าวของ ภายในบริเวณ ม.5 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังรับแจ้ง จนท.ตำรวจ สภ.โพธาราม พร้อมจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบชายคุ้มคลั่งไม่สวมเสื้อ อยู่บนหลังคาบ้านเลขที่ 70/2 ม.5 ต.บางโตนด ทราบชื่อต่อมาคือ นายอำนาจ หนูพรม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/6 ม.5 ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้นได้ยืนและเดินวนไปวนมาอยู่บนหลังคา จนท.ตำรวจ และจนท.กู้ภัยสว่าง กว่า 20 นาย พร้อมอุปกรณ์ไม้ง่ามจึงเข้าปิดล้อมพื้นที่

โดยทางจนท.ตำรวจ ได้พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุยอมลงมาจากหลังคาบ้าน เพราะเกรงจะตกลงมาจนได้รับอันตราย แต่กลับไม่เป็นผลผู้ก่อเหตุ ยังคงเดินวนไปวนมาบนหลังคาบ้านเรือนของชาวบ้าน จนเกิดเาฃสียงคังโครมคราม เป็นที่น่าหวาดเสียวกับประชาชนที่มามุงดู แถมผู้ก่อเหตุยังงัดเอากระเบื้องหลังคาบ้าน ทุ่มใส่หลังคาบ้าน และขว้างปาใส่จนท.อย่างบ้าคลั่ง จนจนท.ต้องพากันหาที่หลบ

ต่อมา พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พร้อม พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.โพธาราม ได่้ลงพื้นที่วางแผนหลอกล่อให้ผู้ก่อเหตุลงมา แต่ขณะที่ผู้ก่อเหตุกำลังเดินงัดกระเบื้องหลังคาบ้าน จู่ๆผู้ก่อเหตุได้เสียหลักล้มจนกระเบื้องแตก ทำให้ร่างของผู้ก่อเหตุตกลงมาใส่แผ่นฝาจนพังถล่ม แต่โชคดีที่ร่างของผู้ก่อเหตุติดคาอยู่ที่เหล็กตัวซีที่รับแผนฝาไว้ จนท.ตำรวจ และจนท.กู้ภัย จึงช่วยกันนำร่างผู้ก่อเหตุลงมาได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จนท.กู้ภัยจึงช่วยกันปฐมพยายามเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกระเบื้องหลังคาแตกหักจำนวน 4 หลังคาเรือน โดยบ้านที่เสียหายทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งบ้านของ นายบุญชู คงรักษา เสียหายเยอะมากกว่าเพื่อน โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายอำนาจ ผู้ก่อเหตุ ติดยาเสพติด และถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาครอบครองและเสพยาเสพติด จนเข้าออกเรือนจำเป็นว่าเล่น ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุ ได้มีอาการคล้ายคนเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง และจู่ๆก็ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน และทุบทำลายหลังคาบ้านอย่างบ้าคลั่ง จนหลังคาบ้านได้ความเสียหาย จึงรีบแจ้งจนท.ตำรวจเข้าระงับเหตุดังกล่าว

ซึ่งขณะที่ทางจนท.ตำรวจ ได้ควบคุมตัว นายอำนาจ ผู้ก่อเหตุยังมีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง และพนมมือสวดคาถาไล่มนต์ตลอดเวลาคุ้มคลั่งตลอดเวลา จนท.จึงต้องรีบนำตัวเข้าห้องขังทันทีเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนพรุ่งนี้จะตรวจหาสารเสพติดในร่างกายผู้ก่อเหตุ หากพบสารเสพติดจะดำเนินคดีเสพยาเสพติด ส่วนคดีทำลายทรัพย์สินนั้นทางจนท.ตำรวจ จะได้ให้ทางเจ้าบ้านของผู้เสียหายทั้ง 4 หลัง มาแจ้งความดำเนินคดีต่อไป.

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี