เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 เมษายน 2565 ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เกษตรจังหวัดประจวบฯ พาณิชย์จังหวัด สภ.หัวหิน และ อส.ออกตรวจร้านแผงจำหน่ายทุเรียนป่าละอู บริเวณริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี เขต ต.ทับใต้-หินเหล็กไฟ ตามสั่งการของ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราช การ จ.ประจวบฯ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนนักท่องเที่ยวว่ามีการหลอกลวงนำทุเรียนจากที่อื่นมาติดสติ๊กเกอร์สวมรอยจำหน่ายว่าเป็นทุเรียนป่าละอู ทุเรียนชื่อดังใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งมีรสชาติอร่อย มีราคาดี และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ผลการตรวจสอบสามารถจับกุมได้ 1 ร้าน ดำเนินคดีข้อหากระทำความผิดฐานหลอกลวงประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ กล่าวว่าจากที่นักท่องเที่ยวร้องเรียนเข้ามาว่าซื้อทุเรียนไปในราคาแพงแต่ไม่ใช่ทุเรียนป่าละอู ซึ่งทาง นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ก็ยืนยันแล้วว่าขณะนี้ทุเรียนป่าละอูยังไม่ออก ยังไม่มีทุเรียนแก่เลย จึงชัดเจนเลยว่าเป็นทุเรียนมาจากที่อื่นเอามาสวยรอยถือว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค ทางผู้ว่าฯท่านเป็นห่วงเรื่องนี้มาก เลยต้องออกมาขอความร่วมมือผู้ประกอบการว่าช่วยกันรักษาชื่อเสียงบ้านเรากว่าที่เราจะสร้างมาได้ขนาดนี้ และฝากถึงผู้ประกอบการที่จำหน่ายทุเรียนอ่อนจะเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค ตอนนี้มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่จำหน่ายอย่างจริงจัง ขอร้องว่าอย่าทำ และก็ทุเรียนถ้าไม่ใช่ของแท้ป่าละอูก็บอกนักท่องเที่ยวตรงๆ อย่าเอามาสวมรอย มันไม่คุ้มกับชื่อเสียงของบ้านเรา ไม่คุ้มกับการถูกกล่าวโทษร้องทุกข์
ด้านนายวัชระ กล่าวว่า กรณีที่หลอกขายทุเรียนป่าละอูให้กับประชาชน สร้างความเสียหายอย่างมาก มีผลกระทบเรื่องรสชาติ ความเชื่อมั่น เพราะว่าผู้บริโภคที่นำทุเรียนที่ไม่ใช่ทุเรียนป่าละอูไปทานจะรู้ว่ารสชาติมันไม่ใช่ ทำให้คนป่าละอูเสียชื่อเสียง ไม่เฉพาะคนป่าละอูเท่านั้นแต่เสียชื่อ จ.ประจวบฯด้วย ซึ่งทางนายอำเภอหัวหินท่านเน้นมาตรการเข้มมากเรื่องคุณภาพ ทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ได้ประสานทางเกษตรอำเภอนำคำสั่งของผู้ว่าฯที่ออกมาตรการเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคออกมาเพื่อปกป้องสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่และทุเรียนป่าละอู.
Discussion about this post