มหกรรมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน สร้างโอกาสสินค้าไทย ผู้ประกอบการ SMEs มีช่องทางการตลาดเข้าถึงผู้ซื้อ ตปท.

วันที่ 29 เม.ย.65 ที่โรงยิมโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดบ้านจองคำ ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน , นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพานิชย์ เปิดงาน “มหกรรมการค้าชายแดน ไทย – เมียน โดยกรมการค้าต่างประเทศร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 เม.ย.65 มีผู้ประกอบการค้าจากจังหวัดต่าง ๆ ทั้งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ นำสินค้าหลากหลาย มีทั้งเสื้อผ้าพื้นถิ่นจากจังหวัดต่าง ๆ อาหารและสินค้าโอทอป มาจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาที่ไม่แพง เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าชายแดนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า แม่ฮ่อง สอน เป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับรัฐฉาน รัฐคะยา และรัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระยะทางรวม 4,832 กิโลเมตร และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และท่องเที่ยวกับประเทศเมียนมา จีน และเอเชียใต้ โดยในช่วงก่อนสถานการณ์ปกติ ในปี 2562 จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีมูลค่าการค้าชายแดนถึง 1,133 ล้านบาท นอกจากนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอนยังมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐคะยา มีการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับเมืองลอยก่อ รัฐคะยาเมื่อปี 2560 ซึ่งหากสถานการณ์ต่าง ๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็เชื่อว่าจะเป็นกลไก สำคัญหนึ่งในการส่งเสริมความร่วมมือของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเมืองลอยก่อ รัฐคะยา ทั้งด้านการค้า การลงทุน การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชน การแลกเปลี่ยนด้านศาสนาและวัฒนธรรม รวมถึงการท่องเที่ยวระหว่างกัน

การจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนในครั้งนี้ จะช่วยสร้างโอกาสของสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าจากผู้ประกอบการ SMEs ในจังหวัดแม่ฮ่อง สอนและจังหวัดใกล้เคียง ทั้งสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูปอุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ ให้มีช่องทางการตลาด สามารถเข้าถึงผู้ซื้อในต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกทางหนึ่ง

นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งรัดผลักดันและส่งเสริมการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน ทั้งนี้ในช่วงสถานการณ์โควิด มูลค่าการค้าชายแดนเป็นประตูหลักของประเทศ รองนายกจุรินทร์ ฯ ได้พยายามผลักดันให้ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านเปิดด่านชายแดนให้มากที่สุด นอกจากการเปิดด่านชายแดนแล้ว สิ่งที่กระทรวงพานิชย์ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือการประชุมร่วมระหว่างภาครัฐ เอกชน เพื่อร่วมผลักดันแก้ไขปัญหาการค้าชายแดน และให้มีงานมหกรรมการค้าชายแดน ปีนี้จะจัดทั้งหมด 8 จังหวัด จัดไปแล้วที่จังหวัดนครพนม จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่ 2 และจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือภาคใต้ ซึ่งการจัดมหกรรมการค้าชายแดนแต่ละจังหวัดนอกจากจะส่งเสริม SME ก็จะมีการจับคู่ธุระกิจการค้าออนไลน์ระหว่างผู้ประกอบการอีกด้วย.