วันที่ 30 เมษายน 2565 ร.ต.อ.โยธิน เชื้อบุญมี รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระ ทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย แพทย์โรงพยาบาลกระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบเหตุพบศพชายอายุประมาณ 30 – 40 ปี เสียชีวิตลอยอยู่ในแม่น้ำท่าจีน หน้าวัดท่ากระบือ ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยศพดังกล่าวลอยคว่ำหน้าติดอยู่กับแพริมน้ำหน้าวัดท่ากระบือ แล้วชาวบ้านได้นำเชือกมาผูกรั้งไว้ไม่ให้ศพลอยไปไหนไกล เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิฯ มานำขึ้นฝั่ง
ทั้งนี้จากการนำศพขึ้นจากน้ำเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรในเบื้องต้นนั้น ไม่พบหลักฐานใดๆ ภายในตัว มีเพียงแหวนทองวงเดียวที่สวมติดนิ้วเท่านั้น ขณะที่ชุดที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่ก็เป็นเสื้อยืดสีเขียว ที่หน้าอกมีตราสัญ ลักษณ์ของมหาวิทยานวมินทราธิราช นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำตาลอ่อน สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว เนื้อตัวขึ้นอืด ผิวหนังเริ่มเปื่อยยุ่ย ไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใดทั้งสิ้น คาดว่าอาจจะพลัดตกน้ำ โดยเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 – 4 วัน จึงได้ส่งศพไปทำการผ่าชันสูตรที่โรงพยา บาลศิริราช เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่ชัดเจน
ต่อมาในเวลาประมาณ 10.00 น. ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่พบศพชายเสียชีวิตรายดังกล่าวข้างต้น ก็มีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น เมื่อมีผู้มาทำบุญที่วัดดอนไก่ดี ตำบลตลาดกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร แล้วได้รับการบอกกล่าวจากพระลูกวัด ว่ามีรถยนต์เก๋งมาจอดทิ้งไว้นาน 4 วันแล้ว ภายในยังคงมีทั้งกุญแจรถ ทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก และรถไม่ได้ปิดล๊อคประตูอีกด้วย ซึ่งผู้ที่มาทำบุญนั้นก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่ม แบน มาตรวจสอบ ปรากฏว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกทิ้งไว้ภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน 9 กข 76 กรุงเทพ มหานคร ก็มีทั้ง เงินสดวางไว้ตรงช่องมือจับประตู,กระเป๋าเป้ พร้อม Macbook Pro , IPad , กล้องถ่ายรูปโพลาลอยด์,ตัวต่อ USB,โทรศัพท์ไอโฟน,กุญแจรถ,กระเป๋าเงินที่ภายในมีทั้ง เงินสด บัตร ATM บัตรข้าราชการ บัตรประจำตัวประชาชน และ ใบขับขี่โดยระบุชื่อ นายธนกฤต ธนวงศ์โภคิน อายุ 40 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 433/45 ถ.ดอนไก่ดี ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นอกจากนี้ยังมีบัตรประจำตัวข้าราชการ (อาจารย์) ของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 1 ใบ และบัตรจอดรถของมหาวิทยาลัยฯ อีก 1 ใบด้วย จึงเป็นการเชื่อมโยงได้ว่า ศพที่พบลอยน้ำหน้าวัดท่ากระบือนั้น เป็นเจ้าของรถยนต์และทรัพย์สินทั้งหมดที่พบอยู่หน้าวัดดอนไก่ดี โดยเชื่อได้ว่า ผู้เสียชีวิตได้ขับรถมาจอดทิ้งไว้พร้อมกับทรัพย์สิน แล้วคิดสั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดไว้ เพื่อเป็นหลักฐานและนำส่งคืนให้แก่ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 433/45 ถ.ดอนไก่ดี ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นบ้านตามที่ระบุในบัตรประชาชนของนายธนกฤตฯ และอยู่ห่างจากวัดดอนไก่ดีไปเพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น ก็ได้พบกับบิดาของผู้เสียชีวิตที่อยู่เพียงลำพังคนเดียว จึงได้พามาดูรถยนต์เก๋งที่ถูกจอดทิ้งไว้ ซึ่งบิดาฯ ก็ยืนยันว่าเป็นของลูกชายจริง ก่อนที่จะร้องไห้เสียใจที่ลูกชายคิดสั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย โดยพ่อของนายธนกฤตฯ เล่าให้ฟังทั้งที่ยังอยู่ในอาการสะเทือนใจว่า ลูกชายเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัย เป็นเสาหลักของครอบครัว โดยลูกชายพักอาศัยอยู่กับเพื่อนแถวๆ ศาลายา แต่ก็จะกลับมาหาพ่อที่บ้านอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ผ่านมา ลูกชายโทรศัพท์มาหาแล้วก็โอนเงินมาให้ 2,000 บาท พอหลังจากนั้นตนเองก็ติดต่อลูกชายไม่ได้อีกเลย กระทั่งวันต่อๆมาก็พยายามติดต่ออีกแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งตนรู้สึกเป็นห่วงลูกชายอย่างมากได้ให้ทั้งญาติพี่น้องช่วยกันตามหา ก็ไม่มีใครพบเจอ จนมาวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปหาตนที่บ้านแล้วบอกให้มาดูรถว่าใช่รถของลูกชายหรือไม่ ซึ่งก็ใช่จริงๆ ด้วย โดยตนเองไม่เคยคิดว่าลูกชายจะคิดสั้นเช่นนี้ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าลูกชายเครียดด้วยเรื่องอะไรจึงเป็นสาเหตุให้คิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะลูกชายไม่เคยพูดอะไรให้ตนเองหรือน้องชาย หรือน้องสาวของผู้ตายทราบเลย อีกทั้งเวลามาหาพ่อก็มีอาการปกติยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ
ขณะที่พระลูกวัดดอนไก่ดี เล่าว่า อาตมาเห็นรถคันนี้ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันพุธ แต่คนเรือที่นำเรือมาจอดเทียบท่าอยู่ตรงท่าน้ำหน้าวัดดอนไก่ดีบอก เห็นจอดไว้ตั้งแต่ช่วงค่ำแล้ว แต่ไม่เห็นคนขับรถ ซึ่งก็จอดทิ้งไว้เรื่อยมา แล้วพอมาวันนี้มีญาติโยมมาทำบุญถวายภัตตาหาร ทางอาตมาจึงเล่าให้ฟังว่ารถคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้พร้อมกับทรัพย์สินภายในจำนวนมากไม่รู้ว่าคนขับรถไปไหน จากนั้นผู้ที่มาทำบุญจึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ จึงได้ทราบว่า เป็นรถของผู้เสียชีวิตที่พบเป็นศพลอยน้ำนั่นเอง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมกับรถยนต์ให้คุณพ่อของผู้เสียชีวิตนำกลับไป พร้อมกับทำบันทึกประจำวันไว้ก่อน ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้นได้ส่งไปชันสูตรอีกครั้งที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ก่อนที่จะให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ขณะที่ปมเหตุของการฆ่าตัวตายก็ต้องขึ้นอยู่กับทางบิดาและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตว่าจะติดใจหรือประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบหาต่อหรือไม่อย่างไรต่อไป.
Discussion about this post