ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า หลังจากที่รัฐบาลมาตรการผ่อนคลายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงได้ประกาศกำหนดมาตรการใหม่ การเดินทางเข้าประเทศทั้งทางบกและทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 โดยสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศทางบก ซึ่งมีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้านมี 17 จังหวัด ได้แก่ 1.เลย 2.นครพนม 3.หนองคาย 4.มุกดาหาร 5.บึงกาฬ 6.ศรีสะเกษ 7.สุรินทร์ 8.สระแก้ว 9.จันทบุรี 10.ตราด 11.ตาก 12. กาญจนบุรี 13.ระนอง 14.สงขลา 15.นราธิวาส 16.ยะลา และ 17.สตูล ทั้งนี้ จังหวัดนครพนมเป็น 1 ใน 17 จังหวัดที่ทาง ศบค.อนุมัติให้เปิดด่านพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงแรงงานข้ามชาติ โดยมาตรการเดินทางเข้าประ เทศไทย ทุกคนต้องแสดงใบรับรองวัคซีน เช่น บุคคลสัญชาติไทย ตรวจ ATK และแสดงเอกสารเช่น ใบ COE นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือบุคคลประเทศเพื่อนบ้าน ฉีดครบ 3 เข็มขึ้นไป อนุญาตอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน หากแสดงเอกสาร Border Pass, ตรวจ ATK, ไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องซื้อประกันภัยสุขภาพ สามารถอยู่ได้เกินกว่า 3 วัน เป็นต้น
โดยจังหวัดนครพนม มีด่านพรมแดนที่ได้รับอนญาต จำนวน 2 ด่านด้วยกัน คือ ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) และด่านท่าเทียบเรือการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองนครพนม-ท่าแขก ส่วนจุดผ่อนปรนหรือตลาดนัดไทย-ลาว อ.ธาตุ พนม, อ.ท่าอุเทน, บ้านหนาด อ.เมืองนครพนม และจุดผ่อนปรน อ.บ้าน แพง ยังไม่มีประกาศให้เปิด
ล่าสุด วันที่ 30 เมษายน 2565 บริเวณด่านท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว ถนนสุนทรวิจิตร กำลังมีการปรับปรุงสถานที่เพื่อเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ภายในอาคารหลังนี้มีหลายหน่วยงานที่ต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน อาทิ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.),ศุลกากรฯ,สาธารณสุขฯ,ฝ่ายปกครอง,ทหาร, ตำรวจ ฯลฯ เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานเข้ามาทำความสะอาดห้องทำงานกัน โดยเฉพาะแอร์หลังไม่ได้ใช้งานมากว่า 3 ปี ก็มีปัญหาต้องให้ช่างมาซ่อมกันยกใหญ่ ส่วนห้องน้ำก็สะอาดสะอ้าน ส่วนการเปิดบริการในวันที่ 1 พฤษภาคมตามที่ ศบค.อนุมัติหรือไม่นั้น ต้องรอเอกสารคำสั่งเปิดด่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ วันที่ 22 เมษายน 2565 นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน ไทย – ลาว จังหวัดนครพนม นำคณะกรรมการฯ เดินทางไปประชุม 2 ฝ่าย ระหว่าง จังหวัดนครพนม กับ แขวงคำม่วน ครั้งที่ 12 ร่วมกับ ท่านวันไซ พองสะหวัน เจ้าแขวงคำม่วน ประธานร่วมคณะกรรมการความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน ไทย – ลาว แขวงคำม่วน และคณะกรรมการฯ ฝ่ายสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ ห้องประชุม บ้านพักรับรอง เจ้าแขวงคำม่วน สาธารณ รัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้หารือและแสดงความคิดเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนเนื้อหาร่วมกันด้วยบรรยากาศอันดี บนพื้นฐานความถูกต้องและสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลไทยและลาว โดยกลไกความร่วมมือดังกล่าวเป็นพื้นฐานที่ดีในการแก้ไขปัญหาร่วมกันในระดับจังหวัดและแขวง ในการมีส่วนร่วมในการรักษาความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตามแนวชายแดนไทยลาว ทำให้ชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศเป็นชายแดนแห่งสันติภาพมิตรภาพและความสามัคคี
พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ดี ระหว่างจังหวัดนครพนม ราชอาณาจักรไทย และ แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในที่ประชุมผู้แทนแขวงคำม่วน ได้แสดงความขอบคุณต่อคณะผู้แทนจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นได้มีการร่วมแถลงข่าวระหว่างจังหวัดนครพนมและแขวงคำม่วน โดยสรุปที่ประชุมได้ปรึกษาหารือและมีความเห็นชอบร่วมกัน ดังนี้
- ความร่วมมือรักษาความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-ลาว
- ความร่วมมือในการรักษาเส้นเขตแดน ไทย-ลาว จังหวัดนครพนม และ แขวงคำม่วน 3. ความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเข้า-ออกเมืองตามจุดต่างๆผ่านแดนไทย- ลาว
- ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามชายแดนไทย-ลาว 5. ความร่วมมือในการรักษาและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและแก้ไขปัญหาการดูดแร่ทรายตามแม่น้ำโขง 6. ความร่วมมือในกรณีบุคคลของแต่ละฝ่ายถูกจับกุม คุมขัง
- ความร่วมมือด้านแรงงาน 8. ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างจังหวัดนครพนม และแขวงคำม่วนและด้วยจังหวัดนครพนม ได้ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดนครพนมและแขวงคำม่วน จึงได้มีความร่วมมือกันมากยิ่งขึ้นในด้านเศรษฐกิจ การอำนวยความสะดวกในการข้ามแดนในจุดข้ามแดนและจุดผ่อนปรนต่างๆที่จะเปิดให้บริการในอนาคตนี้ เพื่อให้การติดต่อธุรกิจการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว การเยี่ยมญาติ การเดินทางเพื่อรักษาพยาบาลของประชาชนของทั้งแขวงคำม่วนและจังหวัดนครพนม การเจรจาเปิดด่านพรมแดนจึงบรรลุไปด้วยดี เมื่อ ศบค.ดีเดย์เปิดด่านวันที่ 1 พ.ค.65 ก็จะเป็นผลดีต่อทั้งสองประเทศ หลังไม่ได้เดินทางไปมาหาสู่กันนานกว่า 3 ปีจากสถานการณ์โรคโควิดระบาด.
Discussion about this post