สภ.บ้านดู่ รวบโจร หลังตระเวณขโมยถังแก๊ส ทำชาวบ้านเดือดร้อน 

ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พีรพัทธ บุญพุทธ ผกก.สภ.บ้านดู่ พ.ต.ท.สุภาพ เขื่อนแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.บ้านดู่ นำโดย พ.ต.ท.สรัญญู บุรีแก้ว สว.สส.สภ.บ้านดู่, ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ พยาสม, ร.ต.อ.ศักดิ์ อรรถเดช, ร.ต.ต.วีระพงษ์ ศรีธิเมืองใจ, ด.ต.ธนัฐ สุภาวรรณ, ด.ต.ณธรรศ งานคำอ้าย, ส.ต.อ.อุปถัมภ์ สินธุชัย และ ส.ต.ท.เดโชพล กันทัพ ได้ร่วมกันจับกุม นายไพโรจน์ อยู่ยืน อายุ 51 ปี ชาว ประชาอุทิศ 75 กรุงเทพฯ ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

โดยการจับกุมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายก่อเหตุขโมยถังแก๊สหุงต้มในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.บ้านดู่ หลายราย ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามหาข้อมูลคนร้าย ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกดภาพคนร้ายเอาไว้ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 100 สีแดง ติดแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน 1 กภ 206 เชียงรายและมีถังแก๊บบรรทุกอยู่ด้านหลัง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามหลักฐานต่างๆ จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายคือนาย ไพโรจน์ จึงได้ออกติดตามตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.40 น. วันที่ 8 พ.ค.65 ทางเจ้าหน้าที่ได้พบ นายไพโรจน์ นอนพักอยู่ที่ศาลาริมมทาง บนถนนสาย เชียงราย – เทิง ต.ดอยลาน อ.เมือง จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการควบคุมตัว

โดยนายไพโรจน์ ได้ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยถังแก๊สหุงต้มไปขายจริง โดยได้กระจายไปขายตามร้านบริการรับเปลี่ยนถังแก๊สตามที่ต่างๆ แล้วนำเงินมาใช้จ่าย โดยได้ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.บ้านดู่แล้ว 3 ครั้ง และท้องที่อื่นๆ อีก นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจพบว่ารถจักรยานยนต์ที่นายไพโรจน์ใช้ก่อเหตุ ก็เป็นรถที่ขโมยมาด้วยเช่นกัน โดยหากผู้ใดสงสัยว่าจะเป็นรถของตนเองสามรถติดต่อเพื่อนำเอกสารมายืนยันการเป็นเจ้าของได้

ทาง พ.ต.อ.พีรพัทธ บุญพุทธ ผกก.สภ.บ้านดู่ ได้ฝากเตือนประชาชน รวมถึงสถานบริการแก๊สหุงต้ม หากพบการนำถังแก๊สมาขาย ขอให้มีการตรวจสอบ ด้วยเนื่องจากอาจจะเป็นถังแก๊สที่ขโมยมาก็ได้ เนื่องตากมีราคาสูงถังละกว่า 1,000 บาท ซึ่งในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้คนร้ายมักฉวยโอกาสก่อเหตุได้ในหลายรูปแบบ หากพบเห็นการกระทำที่อาจจะเป็นการก่อเหตุร้าย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินประชาชน