
(13 พ.ค 65) จังหวัดสกลนครได้จัดทำโครงการปลูกป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 และโครงการ”ปลูกป่าในใจคน” ขยายผลการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต ซึ่งเริ่มปลูกพร้อมกันทั้ง 18 อำเภอ ในวันนี้ โดยที่อำเภอพรรณานิคม บริเวณพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต ภายในวัดป่าภูริทัตตถิราวาส และโรงเรียนบ้านหนองผือนาใน นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ที่ปรึกษาบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษา โครงการ “ปลูกป่าในใจคน” ขยายผลท่องเที่ยวโดยชุมชนตามรอยองค์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครู นักเรียน และประชาชนชาวอำเภอพรรณานิคม ร่วมกันปลูกต้นไม้ บริเวณพื้นที่โดยรอบ
เพื่อส่งเสริมและพัฒนาป่าไม้ต้นแบบตามแนวพระราชดำริ อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และลดภาวะโลกร้อน เป้าหมายบริเวณพื้นที่ป่าชุมชนอย่างน้อยอำเภอละ 1 แห่ง ด้านนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ที่ปรึกษาบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ “ปลูกป่าในใจคน” ขยายผลการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต เป็นแนวทางหนึ่งในการเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่เป็นผลจากการท่องเที่ยว สร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวพร้อมขยายผลพื้นที่ปลูกพืชให้สีเพิ่มมูลค่า การอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านการทอผ้าของกลุ่มผู้ประกอบการในชุมชน และยังเป็นการใช้พลังงานตามแนวทางคาร์บอนเครดิตในพื้นที่

สำหรับพันธุ์ไม้ที่นำมาปลูก ประกอบด้วย ประดู่ พะยูง มะค่าโมง สัก ยางนา อินทนิล ตะเคียนทอง และอื่น ๆ รวม 35,600 ต้น ครอบคลุมพื้นที่ 18 อำเภอ จำนวน 178 ไร่ โดยป่าชุมชนถือว่าเป็นตู้เย็นให้กับชุมชน ประชาชนสามารถเข้ามาเก็บผลผลิตได้ทกเมื่อ
ด้าน นายนเรศ ชมบุญ ทสจ.สกลนคร กล่าวว่า การปลูกป่า/ต้นไม้ในวันนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ และในช่วงวันต้นไม้ประจำปีของชาติ (วันวิสาขบูชา ของทุกปี) โดย”คิกออฟ” พร้อมกัน ทั้ง 18 อำเภอ และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในการเพิ่มพื้นที่ป่าพื้นที่สีเขียว ให้กับจังหวัดสกลนคร และประเทศไทย เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้คงอยู่ เป็นประโยชน์ เกื้อกูล สมดุล มั่งคั่ง มั่นคง กับทุกสรรพสิ่งใน”โลก” อย่างยั่งยืนตลอดไป อย่าลืมว่า”มีป่า มีน้ำ มีชีวิต” ดังนั้นการพิทักษ์ป่า คือการรักษาชีวิต”
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร
Discussion about this post