วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธาน คณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา นำคณะลงพื้นที่ศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายสราวุธ วังริยา รักษาราชการแทนท้องถิ่นจังหวัดนครพนม และคณะผู้บริหารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เพื่อรวบรวมข้อมูล ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ รวมไปถึงความก้าวหน้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนำเสนอต่อวุฒิสภา และรัฐบาล เพื่อพิจารณาในขับเคลื่อนการบริหารประเทศ
พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธาน คณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา กล่าวว่า ในวันนี้ได้มาศึกษาดูงานที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ทำให้ได้ทราบถึงแนวความคิดในการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของด้านการศึกษา ด้านการสาธารณสุข ที่มีแนวความคิดที่จะจัดให้มี การแพทย์ทางไกล ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนม ทั้งในการประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย งบประมาณในการติดต่อสื่อสารต่างๆ ทำให้แพทย์สามารถจ่ายยาให้ผู้ป่วยทางไปร ษณีย์ได้ จึงถือเป็นแนวความคิดที่ดีที่เข้ามาเติมเต็มการพัฒนาให้ประชา ชนได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนถ้าเราสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ทำให้เกิดท้องถิ่นดิจิทัล หรือเมืองอัจฉริยะที่มีการนำเรื่องของไอที อินเทอร์เน็ต มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งในการบริหารงานและการติดต่อกับประชาชนทั่วทั้งจังหวัดแบบไม่ต้องเดินทางเข้ามาที่หน่วยงาน หรือแม้กระทั่งการจ่ายภาษีผ่านแอพพลิเคชั่น การนำนวัตกรรมไปใช้ในการทำมาหากินและส่งเสริมการศึกษา ก็จะเป็นการพัฒนาให้ประชาชนทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นรองรับการเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนมได้ อีกประเด็นคือเรื่องของการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จากกระทรวงสาธารณสุขมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เบื้องต้นจะมีการถ่ายโอน 2 แห่ง แต่ยังไม่มากตามที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องการ แต่ก็มีการเริ่มต้นถ่ายโอนให้แล้ว ซึ่งคิดว่าจะทำถ่ายโอนในครั้งนี้จะทำให้การสาธารณสุขของประชาชนจังหวัดนครพนมดีขึ้นอีกมาก
นอกจากนี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ยังได้มีการบรรยายถึงปัญหาและอุปสรรคในหลาย ๆ เรื่อง ที่คณะกรรมาธิการจะนำไปศึกษาเพิ่มเติมและนำเสนอต่อวุฒิสภา เพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหา เช่น ในเรื่องของการทับซ้อนกันของนโยบาย อำนาจหน้าที่ การขอใช้ที่ดินจากหน่วยงานอื่น เช่น กรมป่าไม้ กรมที่ดิน ที่เป็นปัญหาทำ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนคร พนมไม่สามารถขับเคลื่อนกิจกรรมสาธารณะ หรือบริการสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ด้านนายกษิดิศ อาชวคุณ โฆษกคณะกรรมาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นสำคัญในการประชุมในครั้งนี้ อีกเรื่องคือคณะผู้บริหารจังหวัดนครพนม ได้มีการสะท้อนปัญหาการส่งออก ที่มีมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาทต่อปี ที่จะทำอย่างไรให้คนนครพนมได้ประโยชน์สูงสุดจากตรงนี้ เพราะฉะนั้นการพัฒนาด้านอาชีพจึงมีความสำคัญที่คณธกรรมาธิการต้องผลักดันให้มีการเสริมสร้างตรงนี้ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อทำให้ทุกคนเกิดรายได้ ส่วนเรื่องแพทย์ทางไกล ก็ได้ให้กำลังใจทางคณะผู้บริหารในการขับเคลื่อนและผลักดันให้เรื่องนี้สำเร็จ โดยได้เสนอในที่ประชุมขอนำคณะทำงานในเรื่องดิจิทัลและไอทีจากต่างประเทศที่มีอยู่มาช่วยสนับสนุน เพื่อเสริมสร้างในด้านนี้ให้บุคคลากรจังหวัดนครพนมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะอยากให้โมเดลนี้เกิดขึ้นจริง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างมหาศาลโดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเชื่อว่าท้องถิ่นอื่น ๆ ทั่วประเทศก็พร้อมที่จะนำไปขับเคลื่อนขยายผลต่อ.
Discussion about this post