จับเรือ1 พร้อมชาวเวียดนาม 5 คน ทำประมงผิดกฎหมายในเขตน่านน้ำไทย อีก 14 ลำ หลบหนีได้ คุมเข้มป้องกันข้นน้ำมันเถือนเข้ามา จ.ปัตตานี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 20 พ.ค. 65 ทีท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ จ.ปัตตานี นอ.บุญมี แก้วสง่า รองผอ.ศรชล. ปัตตานี พร้อม นายชยพล สายทวี ผอ.ศูนย์ปฎิบัติการพิเศษปัตตานี ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเล และประมงปัตตานี ได้แถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนาม จำนวน 1 ลำ พร้อมชาวเวียดนามจำนวน 5 คน เข้ารุกล้ำทำประมงผิดกฎหมายในเขตน่านน้ำไทย

สืบเนื่อง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 เวลา 20.50 น. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมต่างชาติ 15 ลำ เข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย ในพื้นที่ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ใน ระยะ 13 ไมส์ทะเล จึงได้ดำเนินการจับกุม โดยได้บรูรณาการร่วม ประกอบด้วย ศรชล. ภาค ๒ ศรชล.จังหวัดปัตตานี ประมงจังหวัดปัตตานี ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปัตตานี ทรัพยากรทางทะเลและขายฝั่งที่ 5 ด่านตรวจประมงปัตตานี พร้อมเจ้าหน้าที่อีก 20 กว่านายสามารถเข้าจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ได้เพียงจำนวน 1 ลำ ส่วนอีก 14 ลำสามารถหลบหนีได้ โดนเรือประมงดังกล่าวเป็นเรือประ เภทคราดปลิง ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสจากเรือเครือข่ายเรือประมงไทย ในพื้นที่อ่าวไทย บริเวณพื้นที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการลักลอบเข้ามาทำการประมงของเรือประมสัญชาติเวียดนาม จำนวนมากโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและได้ทำลายอุปกรณ์ทำการประมงของเรือประมงไทย ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นพื้นที่กว้าง

ภายหลังทเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้เข้าทำการควบคุมเรือประมงสัญชาติ
เวียดนามดังกล่าว จำนวน 1 ลำ จึงได้นำเรือประมงลำดังกล่าวเข้าเทียบท่าที่ ท่าเทียบเรือศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปัตตานี พร้อมลูกเรือจำนวน 5 คน ทราบชื่อ 1นายกวาง ถัง ตึ๋ง อายุ 33 ปี 2.นายห่า ยัง เหงีย อายุ 33 ปี 3.นายยัง เริน อายุ 32 ปี

4. นายเหวง ตั๋ง เกิ่ง อายุ 44ปี 5. นายจัง ฮาง ตึ๋งฮัน ทั้งหมดเป็นชาวเวียด นาม ซึ่งเจ้าหน้าทีสาธารณสุข ได้เข้าทำการตรวจคัดกรอง ตรวจเชื้อทั้ง5 คน พบว่าทุกคนยังปกติ แต่ทังนี้จึงต้องทำการนำตัวไปยังสนามกักตัว เพื่อรอดูอาการ และเตรียมดำเนินคดีต่อไป

จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นเรื่อที่เดินทางออกมาจากเมือง กาเมา ประเทศเวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 2565 โดยเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทยมาแล้ว 5 วัน อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนามดังกล่าว เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา ประกอบด้วย

1. ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 10 / 2. ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558
2. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ใด้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วย สิทธิการประมงในเขตการประ มงไทย พ.ศ.2482 และได้ทำการบันทึกการจับกุมเพื่อนำส่งให้กับ สถานีตำรวจภูธร อ.ปะนะเระ จ.ปัตตานีต่อไป

นอ.บุญมี แก้วสง่า รองผอ.ศรชล. ปัตตานี กล่าวงตอนท้ายว่า สำหรับอ่าวไทยพื้นที่จังหวีดปัตตานีที่เรารับผิดชอบ เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลสุดความสามารถ โดยไม่ยอมให้ประมงต่างช่าวรุกล้ำเข้ามาแยกชิงทรัพยากรในการทำประมงเป็นอันขาด พร้อมทั้งเราจะทำการราดตระเวนป้องกันอ่าวไทย เพื่อตรวจตรา ป้องกันผู้ที่ลัก ลอบนำสิ่งผิดกฏหมาย โดยเฉพาะน้ำมันเถือน และบุหรีเถือนเข้ามาน่านน้ำอ่าวไทยในพื้นที่จ.ปัตตานี.