เมื่อวันที่ 26 พ.ค. นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรี ขันธ์ เปิดเผยว่า ตามที่ จ.ประจวบฯ ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายดำเนินการจัดทำข้อมูลเพื่อขอเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวนำร่องทั้งจังหวัด โดยมี นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชกา รจ.ประจวบฯ พร้อมด้วยคณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลนำเสนอต่อ ศปก.ส่วนกลางแล้วเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องและสนองต่อนโยบายรัฐบาล สอดรับกับนโยบายที่มุ่งเน้นกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดด้วยการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวพื้นที่สีฟ้า (Blue Zone) ครอบคลุมทั้งจังหวัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 ซึ่งจะสามารถจัดงานหรือกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากได้ตามความเหมาะสม และสามารถเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ได้แต่ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ โดยมีข้อกำหนดการเปิดให้บริการคือเปิดร้านได้ไม่เกินเวลา 24.00 น.งดใช้แก้วร่วมกัน งดกิจกรรมส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ให้บริการต้องฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น คัดกรองพนักงานตรวจ ATK ทุก 7 วัน ส่วนผู้รับบริการต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น กลุ่มเสี่ยง 608 งดเข้าใช้บริการ
ขณะที่ข้อมูลปริมาณการเพิ่มขึ้นของ SHA Plus ของ จ.ประจวบฯในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 47.57 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปริมาณพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ให้บริการในโรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานประ กอบการที่มีพนักงานได้รับการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ (2 เข็มขึ้นไป) เกินร้อยละ 70 ของพนักงานทั้งหมด และครบร้อยละ 100 ของพนักงานที่ให้บริการหน้าร้านตามเงื่อนไขการได้รับมาตรฐาน SHA + สูงขึ้นในระดับที่ดี ซึ่งทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในสถานประกอบการทั้ง 10 ประเภท โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรม ที่พัก ภัตตา คาร ร้านอาหาร และยานพาหนะ ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่สะท้อนผลการดำเนินการกระจายวัคซีนในกลุ่มลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน ทั้งชาวไทยและแรงงานชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของ จ.ประจวบฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 26 พ.ค.65 พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 23,188 ราย รักษาหายและออกจาก รพ.แล้วจำนวน 22,996 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวัน ข้อมูล ณ วันที่ 26 พ.ค.65 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28 ราย จำนวนผู้ป่วยใหม่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องชัดเจน จำนวนประชา กรเป้าหมายทั้งจังหวัดได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 78.5 เข็มที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 73.5 เข็มที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 29.1 และเข็ม 4 คิดเป็นร้อยละ 2.9 รวมฉีดแล้ว 1,063,165 โดส ขณะที่ ศบค.ผ่อนคลายแนวทางการจัดการกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 โดยไม่ต้องกักตัว สามารถที่จะเดินทางไปทำงานได้แต่ให้แยกตัวออกจากผู้อื่น สังเกตอาการตนเอง 10 วัน และตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วยทางเดินหายใจ หากพบการติดเชื้อให้โทรสายด่วนสปสช.1330 เพื่อประเมินอาการและนำเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป ซึ่งจากการประเมิน จ.ประจวบฯ มีความพร้อมทุกด้านเพื่อเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบ วิถีการท่องเที่ยวแนวใหม่ (New Nomal Tourism Service) ขณะเดียวกันคณะกรรม การโรคติดต่อ จ.ประจวบฯได้รับทราบแนวทางของกรมควบคุมโรคในการยกระดับมาตรการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง ซึ่งล่าสุด องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันพบผู้ป่วยใน 17 ประเทศ โดยกรมควบคุมโรคได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข กรณีโรคฝีดาษลิง เข้มงวดคัดกรองชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศที่พบการระบาด พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข่าว สารอย่างใกล้ชิด.
Discussion about this post