วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 เวลา 13.30 น. ที่วัดอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทองนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษโครงการประชุมสัมมนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกครองคณะสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดอ่างทอง โดยมี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พระราชธีราภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 2 เจ้าคณะพระสังฆาธิการ นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด คณะสงฆ์จังหวัดอ่างทองและหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมโครงการ เพื่อมอบนโยบายตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง รับทราบปัญหา หาแนวทางหรือมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อความเจริญมั่นคงของสถาบันชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่างยั่งยืนตลอดไป
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ของพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ มีข่าวคราวปรากฏตามสื่อต่างๆ เป็นไปในทิศทางลบมากกว่าทางบวกที่มีสาเหตุหลักเกิดจากพระภิกษุบางรูป บางกลุ่ม ซึ่งเป็นส่วนน้อยมากจากพระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดทั่วประเทศ ประพฤติตนไม่เหมาะสมตามหลักพระธรรมวินัยก่อให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อพระสงฆ์ในภาพรวมของคนในสังคม โดยเฉพาะคนที่มีศรัทธายังไม่มั่นคงต่อพระพุทธศาสนา อีกทั้งมีบุคคลบางกลุ่มได้อาศัยสถานการณ์ดังกล่าวนี้ เข้าไปดำเนินการตรวจสอบ สอบสวน และพิพากษาตัดสิน โดยไม่ผ่านกระบวนการตามหลักพระธรรมวินัยและหลักกฎหมาย พยายามสร้างกระแสต่อมวลชนผ่านสื่อต่างๆ ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงสั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนที่สุด พร้อมกำชับให้กำหนดมาตรการหาแนวทางป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความรู้สึก ความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา โดยที่ผ่านมาได้สำนักงานพระพุทธศาสนารวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องดังกล่าวและได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการ ย้ำกลุ่มบุคคลที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องแล้วเข้ามาดำเนินการเป็นผู้ทำลายศาสนา ทำลายความน่าเชื่อถือ ทำลายความศรัทธา การกระทำของคนกลุ่มนี้ถือเป็นการก้าวก่ายอำนาจหน้าที่ของคณะสงฆ์ เป็นการกระทำโดยพลการไม่ได้ประสานงานมายังสำนักพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ได้มีการกำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สำคัญเพื่อให้คณะสงฆ์จังหวัดอ่างทอง และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกันให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายได้ตระหนักร่วมกันต่อปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนา จึงต้องช่วยกันดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ปัญหาดังกล่าวยุติโดยเร็ว และเพื่อให้มีแนวทางหรือมาตรการในการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยประชาชนสามารถร้องเรียนหรือแจ้งภัยทางพระพุทธศาสนาผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด สายด่วน กอ.รมน. 1374 เพื่อความเจริญมั่นคงของสถาบันชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่างยั่งยืนตลอดไป
Discussion about this post