ยะลา – ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตงเฝ้าระวังและป้องกันโรคฝีดาษลิง สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศผ่านพรมแดนอำเภอเบตง ขณะที่สาธารณสุขอำเภอเบตงให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่และ อสม. รวมไปถึงประชาชน แม้ยังไม่พบการระบาดของโรคในประเทศไทย
วันนี้ (27พ.ค.65) ที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง ได้การคัดกรองโรคโควิด-19 รวมไปถึงการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ ผ่านระบบ Thailand Pass ซึ่งจะช่วยให้ตรวจจับกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็วขึ้น และป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ หลังพบการแพร่ระบาดในหลายประ เทศ และสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ โดยเน้นการติดตามเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง
นางสาวธัญณภัส ชาระ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง กล่าวว่า ระยะนี้เป็นช่วงเริ่มเปิดให้มีการเดินทางเข้าประเทศไทยได้มากขึ้น และเป็นช่วงเตรียมการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นของโรคโควิด -19 ดังนั้นอาจมีความเสี่ยงจากผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด หรือผู้ที่เดินทางมาจากประเทศในทวีปแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก ประเทศไทยจึงได้ยกระดับเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงภายหลังการเปิดประเทศ เพื่อความไม่ประ มาทเตรียมพร้อมรับมือได้ทัน แม้จะยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทยก็ตาม แต่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ซึ่งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประ เทศเบตง นอกจากจะมีการคัดกรองโรคโควิด-19 แล้ว ยังได้เพิ่มการเฝ้าระวังและคัดกรองโรคฝีดาษลิงสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศและเน้นติดตามเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น โดยการคัดกรองจะดูว่ามีไข้ตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียสหรือประวัติมีไข้ร่วมกับมีอาการ ได้แก่ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลังและต่อมน้ำเหลืองโตประกอบกับมีผื่นกระจายตามลำตัว มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง หรือตุ่มตกสะเก็ด ให้รีบไปพบแพทย์ รวมถึงแจ้งประวัติการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซียที่ติดกับไทยยังไม่พบการระบาดของโรคฝีดาษลิงแต่อย่างใด
นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณ สุขอำเภอเบตง กล่าวว่า โรคฝีดาษลิงที่กำลังระบาดในต่างประเทศขณะนี้ว่า ขอให้ประชาชนติดตามสถาน การณ์และข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและยืนยันว่าสถานการณ์ในประเทศยังไม่มีอะไรน่าตื่นตกใจ โดยขณะนี้ยังไม่พบการระบาดของโรคในไทย ซึ่งกรมควบคุมโรคได้มีการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคทั้งต่างประเทศและในประ เทศ คัดกรองบุคคลที่มาจาก 17 ประ เทศเสี่ยง นอกจากนี้สาธารณสุขอำเภอเบตง ได้มีการให้ความรู้ทำ ความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่และ อสม. รวมไปถึงประชาชน และได้มีการเฝ้าระวังและสังเกตอาการผู้ที่เดินทางมาในพื้นที่ ให้คอยสังเกตอาการเจ็บป่วย และพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้ติดเชื้อและแพร่เชื้อ ส่วนการฉีดวัค ซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษ ซึ่งสามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 85% โดยก่อนหน้าที่จะกวาดล้างไข้ทรพิษได้นั้น มีการฉีดวัคซีนหรือที่เรียกกันว่าการปลูกฝี ซึ่งจะช่วยป้องกันทั้งสองโรคนี้ได้ ส่วนเด็กที่เกิดหลังปี 2523 จะไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนไข้ทรพิษมาก่อน จึงเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อโรคฝีดาษลิงมากกว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและหากต้องเดินทางไปยังประเทศที่พบผู้ป่วยฝีดาษลิงควรระมัดระวัง ดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์พาหะ ได้แก่ สัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก และสัตว์ตระกูลไพรเมต เช่น ลิง ถึงแม้ว่ายังไม่มีรายงานพบเชื้อในสัตว์เหล่านี้ในประเทศไทยก็ตาม หากมีการสัมผัสสัตว์ให้รีบล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด และหลังจากเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของโรคฝีดาษลิงให้สังเกตอาการ หากพบมีความผิดปกติ เช่น มีไข้ มีตุ่มผื่นที่ใบหน้า แขน และขาให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง 2.ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention (UP) โดยการหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิดไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก กินอาหารปรุงสุก เป็นต้น 3.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง บาดแผล เลือด และน้ำเหลืองของสัตว์ หรือกินเนื้อสัตว์ติดเชื้อที่ปรุงไม่สุก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ละอองฝอย หรือน้ำเหลืองจากผู้ที่สงสัยว่าป่วยหรือมีประวัติเสี่ยง.
Discussion about this post