วันนี้ 15 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอำนาจ ชูทอง รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานจังหวัดยะลา ประกอบด้วย นางสาวพุทธชาติ อินทร์สวา แรงงานจังหวัดยะลา นางชวนชม บัวอนนท์ จัดหางานจังหวัดยะลา นายชาติวุฒิ ทองกัน ผอ.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 24 ยะลา นางถนอมจิต แก้วเกื้อ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดยะลา นางเยาวดี เพชรเกลี้ยง ประกันสังคมจังหวัดยะลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ ทำการปกครองอำเภอเมืองยะลา สถานีตำรวจภูธรเมือง วัฒนธรรมจังหวัดยะลา ผู้แทน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา (พมจ.ยะลา) ผู้แทน กอ.รมน ผู้แทน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดยะลา (ตม.ยะลา) และด่านตรวจคนเข้าเมือง ลงพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยม บจก.ยะลาสหพันธ์แก๊ส (โรงแก๊ส) ซึ่งตั้งอยู่ที่ 160/1 หมู่ที่ 1 ถนนเพชรเกษม ตำบลท่าสาป อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ประกอบกิจการจำหน่ายเติมก๊าซสำหรับใช้หุงต้มในครัวเรือน ตามนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงานที่รัฐบาลมีข้อสั่งการและนายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กำชับและเร่งรัดให้มีการดำเนินการในพื้นที่จังหวัดยะลา อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในสถานประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าวและประกอบกิจการที่มีความเสี่ยง โดยมีแผนออกตรวจแบบบูรณาการสถานประกอบการ/โรงงาน อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ผลจากการออกตรวจสถานประกอบการ / โรงงานที่ผ่านมา จำนวน 10 แห่ง จังหวัดยะลายังไม่พบกรณีกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้แรงงานต่างด้าวในพื้นที่
นายอำนาจ ชูทอง รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การมาร่วมตรวจพร้อมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ครั้งนี้นอกเหนือจากเป็นการเข้าตรวจตามแผนแล้ว ยังถือเป็นโอกาสสำคัญด้วยที่จะพูดคุยและรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการที่จะได้สะท้อนการทำงานในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมถึงเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ซึ่งท่านภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา มีความห่วงใยผู้ประกอบการ พร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดยะลาให้มีความเจริญก้าวหน้า สิ่งใดที่เป็นข้อจำกัด และต้องเร่งแก้ไขจะได้นำไปสู่การปรึกษาหารือและช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อไป นั้นคือนายจ้างอยู่ได้ ลูกจ้างก็อยู่ได้ เศรษฐกิจจังหวัดยะลาดี คุณภาพชีวิตของคนยะลาก็ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ นางสาวพุทธชาติ อินทร์สวา ยังได้กล่าวว่า ได้ขอให้นายจ้าง / ผู้บริหาร ยังคงเอาใจใส่เรื่องการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อโรคไวรัสโควิด -19 ในโรงงานเหมือนเช่นเดิม เพื่อให้ยังคงสามารถดูแลสุขภาพอนามัยของลูกจ้างทั้งคนไทยและต่างด้าว สิ่งสำคัญต้องให้ลูกจ้างได้รับการจ่ายค่าจ้างไม่น้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดยะลา คือ 313 บาทต่อวัน จ่ายให้ตรงตามกำหนด จัดสวัสดิการแรงงานให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากลักษณะการประกอบการของนายจ้างมีความเสี่ยง จึงต้องกำชับและควบคุมอย่างเข้มงวดในมาตรการความปลอดภัยในการทำงานด้วย จากการพูดคุย ส่วนหนึ่ง ทราบว่า สถานประกอบการแห่งนี้ มีลูกค้าและหน่วยงานที่ติดต่ออยู่เป็นจำนวนมาก จึงน่าจะเป็นเครือข่าย หรือสื่อกลาง ที่จะช่วยสร้างการรับรู้ ส่งต่อ ข้อมูล ข่าวสาร ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้อง การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน รวมถึง การช่วยเป็นหูเป็นตา ให้แก่หน่วยงานราชการ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งหนทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานได้
**ข้อมูลสถานประกอบการ มีลูกจ้างจำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 13 คน หญิง 9 คน เป็นลูกจ้างไทย 13 คน ชาย 9 คน หญิง 4 คน และเป็นลูกจ้างต่างด้าว ทั้งหมดเป็นพม่า จำนวน 9คน ชาย 9 คน หญิง – คน
สำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา
Discussion about this post