
วันที่ 16 มิ.ย. 65 นาวาเอก เพชรรัตน์ เทียนจันทร์ รอง ผอ.ศรชล. จังหวัดระนอง นำลังพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง เข้าตรวจสอบตามแพปลาและท่าเทียบเรือต่าง ๆ ในตัวเมืองระนอง โดยพาะพื้นที่ ต.ปากน้ำและบางส่วนของ เขตเทศบาลเมืองระนอง ซึ่งมีท่าเทียบเรือ แพปลาของเอกชนนับร้อยแห่ง หลังจากได้รับคำสั่งจากจังหวัดระนอง เนื่องจากทราบว่า มีเรือหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเรือประมง เรือขนส่งสินค้าทุกขนาด เรือขนส่งสินค้า ที่เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้านมุ่งตรงสู่จังหวัดระนอง หลังจากมีการขนถ่ายสินค้าตามปกติ
มีการสั่งซื้อนำมันจำนวนมากจากแพต่างต่าง ๆ ซึ่งเดิมเป็นการเพียงเติมนำมันลงเรือ เพื่อนำเรือกลับประเทส แต่หลังจากที่เกิดปัญหาเรื่องการขาด แคลนน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยประ เทศเพื่อนบ้านราคาน้ำมันสูงกว่าจังหวัดระนองหรือประเทศไทยลิตรกว่า10บาท อีกทั้งทราบว่าช่วงนี้เองในพื้นที่จังหวัดเกาะสองประเทศเมียนมาขาดแคลนน้ำมันเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีการส่งออกซื้อขายน้ำมันทุกเภทอย่างถูกกฎหมายระหว่างประ เทศผ่านช่องทางของรัฐกับภาคเอกชน

ในช่วงที่ผ่านมาทราบว่าในพื้นที่ประ เทศเพื่อนบ้านขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก ปั๊มน้ำมันขนาดเล็กถึงกลางต้องปิดตัวเพราะไม่มีน้ำมันจำหน่าย จึงเกิดการลักลอบขนน้ำมันจากไทยในแบบกองทัพมดโดยใช้วิธีให้เรือสินค้าทุกประเภท เรือขนถ่ายสัตว์น้ำ ที่ปกติน้ำสินค้ามาส่งยังจังหวัดระนองสามารถเติมเชื้อเพื่อกลับสู่ประเทศ เฉพาะในถังน้ำมัน ในตัวเรือ
แต่ขณะนี้เนื่องจากสภาวะขาดแคลนน้ำมันอย่างหนักประกอบกับราคาน้ำมันที่สูงในประเทศเพื่อบ้าน จึงมีกลุ่มเรือที่อาจจะร่วมกับผู้ประกอบการชาวไทยนำน้ำมันมาขายโดยใส่ถังน้ำมันขนาดเล็กจำนวนมากหลังจากที่เติมในเรือจนเต็มเพื่อนำไปขายยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน การกระทำดังกล่าวเป็นการระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นการลักลอบนำน้ำมันออกนอกประเทศ แต่ยังต้องมาดูว่าผิดกฎ หมายศุลกากร กฎหมายสรรพสามมิตรหรือไม่ เบื้องต้นได้ทำการชี้แจงไปยังแพปลาแพสินค้าต่างต่างว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะผิดกฎหมายเพื่อเป็นการป้องปราบ เพราะทุกวันนี้คนไทยก็ใช้น้ำแพงอยู่แล้ว.
Discussion about this post