
ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย
ที่สะพานมิตรภาพ แห่งที่ 4 เชียงของ – ห้วยทราย ซึ่งเป็นด่านพรมแดน ไทย สปป.ลาว พบว่ามีทั้งคนไทย และคนลาว ข้ามไปมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นการเเดินทางเพื่อข้ามไปเยี่ยมญาติ และท่องเที่ยวในพื้นที่ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ส่วนชาว สปป.ลาว พบว่ามีการเดินทางข้ามมาทั้งแบบโดยสารรถประจำทาง และรถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามา ในประเทศไทย ซึ่งการข้ามมาของชาว สปป.ลาว เพื่อเป็นการมาซื้อสิ่งของอุปโภค บริโภค ท่องเที่ยว และไปพบแพทย์ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณสพานมิตรภาพ แห่งที่ 4 พบว่าสถิติการเดินทางเข้า – ออก ที่ด่านพรมแดนตั้งแต่เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมีคนเดินทางขาออกไปยัง สปป.ลาวประมาณ 19,862 คน และเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวน 19,953 คน

การเดินทางเข้า – ออก ของประชาชนทั้ง ไทย และ สปป.ลาว ที่ผ่านสพานมิตรภาพแห่งที่ 4 นี้ ส่วนใหญ่จะใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอร์เดอร์พาส คนไทย สามารถข้ามพรมแดนไปได้ 3 วัน 2 คืน โดยในฝั่ง สปป.ลาวให้อยู่ได้ในเฉพาะพื้นที่ แขวงบ่อแก้ว ส่วนในประเทศไทย ชาว สปป.ลาว สามารถเข้าไปได้ในเฉพาะพื้นที่ จ.เชียงรายเท่านั้น และต้องกลับเข้าเมืองตามช่องทางที่ออกไป
อย่างไรก็ตามทาง พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองให้การประชาสัมพันธ์ ให้กับทั้งคนไทย และคน สปป.ลาว ก่อนจะข้ามพรมแดน เกี่ยวกับการถูกหลอกให้ไปทำงานแล้วตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ โดยได้มีการทำแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ทั้งภาษาไทย และภาษาลาว นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจคัดกรองบุคคลที่อาจจะเข้าข่ายถูกหลอกไปค้ามนุษย์มาสอบปากคำเบื้องต้นและแนะนำเป็นรายบุคคล จากสถิติพบว่าตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ ได้ประสานงานกับทาง สปป.ลาวเพื่อช่วยเหลือนำคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มาแล้ว 84 คน และยังคงพบว่ามีบุคคลที่ค้างอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะได้มีการประสานงานทางด้านชายแดนเพื่อช่วยเหลือคนไทยกลับอย่างปลอดภัย
Discussion about this post