
วันนี้ (20 มิ.ย.65) ที่ห้องประชุม โรงแรมแกรนด์วิว แลนมาร์ค อ.เบตง จ.ยะลา นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวต้อน รับพร้อมเป็นประธานในพิธีเปิดการจัดโครงการ ”การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน” โดยมี นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเปิดงานพร้อมร่วมเสวนาในหัวข้อดังกล่าว ร่วมกับ นายรัตนะ สวามีชัย เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ นายธีรทัศน์ รังสิวรโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัทคอลลาเบอเรชั่น จำกัด และนางผุสสดี จ่ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา
นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้จัดโครงการ การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชาย แดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน ระหว่างวันที่ 19 – 21 มิถุนา ยน 2565 ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยทำงานบูรณาการร่วมกับสภาเกษตรแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา จัดสัมมนาให้ความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA หรือเขตการค้าเสรี และโอกาสทางการค้าในตลาดอาเซียน พร้อมเปิดเวทีวิเคราะห์สินค้าให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา โดยมีวิทยากรซึ่งเป็นนักการตลาดให้คำแนะนำเรื่องการทำตลาด การใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า กลยุทธ์การเจาะตลาดผู้บริโภค และช่องทางการทำตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำข้อมูลความรู้และคำแนะนำที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ไปพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทำให้สินค้าที่ผลิตสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง และมีตลาดรองรับที่แน่นอนทั้งในประเทศและตลาดส่งออกต่างประเทศ

รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวด้วยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรในการสร้างความตระหนักรู้เรื่องตลาดการค้าเสรี กฎระเบียบทางการค้า ตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคในอาเซียน โดยเน้นการใช้ประโยชน์จาก FTA ซึ่งทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ปัต ตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และ จ.สง ขลา สำหรับ จ.ยะลา เป็นจังหวัดที่มีจุดแข็งในการเป็นแหล่งผลิตผลไม้รสชาติดีมากมายทั้งทุเรียน มังคุด ส้ม ลองกอง กล้วยหิน โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งถือว่ายะลาเป็นเมืองแห่งทุเรียนคุณภาพ และยังเป็นประตูการค้าที่อยู่ติดกับตลาดอาเซียนผ่านด่านพรม แดนเบตง ผู้ประกอบการในพื้นที่จึงสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายการส่งออกสินค้าไปสู่ตลาดอาเซียนได้ ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง เมษายน 2565 มูลค่าการค้ารวมของไทยในตลาดอาเซียนอยู่ที่ 41,997 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออก 24,001 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 17,996 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าเกษตรหลักที่ไทยส่งออกไปอาเวียน เช่นยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะ หลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ข้าว และไก่สด แช่เย็นและแช่แข็งเป็นต้น โดยสัดส่วนการค้าของไทยที่ส่งออกไปตลาดอาเซียนคิดเป็นร้อยละ 4.42 ของการส่งออกสินค้าเกษตรไปสู่ตลาดโลก ขณะที่ตลาดส่งออกสำคัญ 3 อันดับแรกในอาเซียนคือ มาเลเซีย อินโดนิเซีย และเวียดนาม.
Discussion about this post