
วันที่ 22 มิถุนายน 2565 นางสาวบุญญารัตน์ บัวคำ อายุ 34 ปี ชาวบ้านม.7 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้เดินทางมาร้องสื่อพร้อมกับใบลงบันทึกประจำวัน หลังคุณแม่คือนางรัตนา บัวคำ อายุ 53 ปี ถูกกลุ่มชาย 2 คน และหญิง 1 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บจนตาบวมปูดและ ถลอกฟกช้ำตามร่างกายอีกหลายแห่ง
นางสาวบุญญารัตน์ บัวคำ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนมีบ้านพักอยู่ในเมืองส่วนแม่กับพ่อและหลานพักอยู่ที่บ้านพักใน อ.บางระกำ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา พ่อได้โทรมาหาบอกว่าแม่ไปเอาเงินคนรู้จักมา 3 หมื่น แล้วยังไม่ได้คืน ตอนนี้ลูกชาย กับลูกสะใภ้ของเจ้าของเงินบุกมาที่บ้าน จะมายกของใช้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภาย ในบ้านหักหนี้ ตนก็เลยคุยโทรศัพท์บอกว่าของในบ้านเป็นของตน ยกไปแล้ว แต่ถ้ายกไปตนจะเข้าแจ้งความ เลยทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นไม่กล้ายกของไป แล้วมาเจรจากับพ่อของตนแทน โดยพ่อได้บันทึกเสียงตอนตกลงกันไว้ว่า จะยินยอมชดใช้เงินให้เดือนละ 2000 บาท จนกว่าจะครบยอดเงินที่เป็นหนี้ ซึ่งทางกลุ่มคู่กรณีก็ตกลงและแยกย้ายกันไป
นางสาวบุญญารัตน์ฯ บอกต่ออีกว่า แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะมีผู้ใช้ Facebook ชื่อหนึ่งไปโพสต์ในกลุ่มบางระกำ ประจานแม่ของตนว่าเป็นบุคคลอันตราย ยักยอก ช่อโกง ชี้เป้าว่าแม่ขายของอยู่ตรงไหน และทิ้งท้ายว่าใครแจ้งเบาะแสจะมีรางวัลให้ 2 พันบาท พร้อมเบอร์ให้โทรแจ้ง และลงชื่อร้านบางกอกชูล์ และล่าสุดเมื่อวันจันทร์(20 มิถุนายน 2565) ช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 ตอนนั้นแม่ตนกำลังขายของอยู่ จู่ๆ ก็มีชาย 2 คน และผู้หญิง 1 คน เข้าไปหาแม่และพูดว่า “มึงเอาเงินแม่กูไป มึงทำแม่กูเจ็บ” จากนั้นก็รุมทำร้ายแม่แบบ 3 รุม 1 จนแม่สะบักสะบอมไปทั้งตัว จากนั้นกลุ่มคนทำร้ายก็พาแม่ไปโรงพักเพื่อไปแจ้งความว่าแม่ของตนยืมเงินไปแล้วไม่ใช้ ทั้งๆ ที่ พ่อกับกลุ่มคนดังกล่าวตกลงกันแล้วว่าจะชดใช้ให้เดือนละ 2000 กว่าจะครบ แต่กลับมารุมทำร้ายแม่ของตนซื่งเป็นคนแก่อายุ 53 ปีแล้ว และตอนนี้คือสภาพแม่ตาบวมปิดเป็นสีม่วง ไม่สามารถลืมตาได้เลย เลยอยู่ระหว่างเข้าไปพบคุณหมอเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ทำการโทรวิดีโอคอลหานางรัตนา บัวคำ อายุ 53 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ระหว่างกำลังไปพบหมอเพื่อตรวจร่างกาย ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีเพื่อนกลับมาจากกรุงเทพฯ ตนกับคนรู้จักได้ไปนั่งเล่นไพ่กัน แล้วคนรู้จักเสียไพ่เลยถอดทองที่คอ ให้ตนเอาไปจำนำให้ 30000 บาท แต่ตนแอบเอาไปจำนำเป็นเงิน 60000 บาท โดยเก็บไว้ส่วนตัว 3 หมื่นบาทจริง และอยู่ระหว่างหาเงินมาคืน โดยสามีและลูกสาวก็ตกลงกับกลุ่มคู่กรณี และมีการถ่ายบัตรประชาชนสามีไปแล้ว และตกลงกันว่าจะชดใช้คืนให้เดือนละ 2000 บาท จนครบ แต่จู่ๆ กลุ่มคนดังกล่าวก็มารุมทำร้ายตนจนได้รับบาดเจ็บ
ด้านนางสาวบุญญารัตน์ บอกว่า ในส่วนเรื่องเงินที่แม่ตนไปเอาของคู่กรณีมา 30,000 บาท หากคู่กรณีจะแจ้งความตนก็ยินยอมเพราะแม่ตนเองก็ผิดจริง ไปเอาเงินเขามาจริง แต่ส่วนเรื่องที่กลุ่มคนมาทำร้ายแม่ของตน ตนก็ไม่ยอมเหมือนกัน เพราะตกลงจะคืนให้แล้ว แต่กลับมารุมทำร้ายกันจนได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ ตนก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเหมือนกัน ยิ่งเขามาบอกแม่ว่า แม่ทำอะไรพวกเขาไม่ได้หรอกเพราะแม่ไปเอาเงินพวกเขามา ตนยิ่งยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเช่นกัน ในวันนี้จึงเดินทางมาร้องทุกข์กับสื่อมวลชนเพราะเกรงว่าคดีความจะไม่มีความคืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม.
Discussion about this post