
จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวของ คุณทวี ไกรคุปต์ อายุ 83 ปี พ่อขอ’ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบนท้องถนน จนผู้เสียหายต้องนำมาคลิปมาเผยแพร่บนโลกโซเซียลไปแล้วนั้น
ต่อมา เอ๋ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ได้โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัดท้อระบุว่า “อยากจะเรียนถามนักกฏหมายเก่งๆว่าถ้ากรณีอย่างนี้จะทำอย่างไรให้คุณพ่อเลิกขับรถได้บ้างคะ ในเมื่อรถยนต์ก็ไม่ใช่ของเรา และคุณพ่อไม่ยินยอม ไม่ฟังคนในครอบครัว ไม่ฟังใครเลย ทุกข์ใจค่ะ ข่าวนี้ขายได้ แต่ต้องขอบคุณสื่อที่วันนี้ไม่บูลลี่คุณพ่อทวี เพราะคนที่มีพ่ออายุมาก.. จะเข้าใจปารีณา”
โดยผู้ทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ น.ส.ปารีณา โดยได้บอกว่า พอได้ทราบข่าวว่า คุณพ่อขับรถเฉี่ยวชนอีกแล้ว รู้สึกทุกข์ใจ และเป็นห่วง ด้วยความที่เราเป็นลูก จะต้องห่วยและทุกข์ใจเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทั้งตนและทุกคนในครอบครัว ได้มีการพูดคุยขอร้องไม่ให้คุณพ่อขับรถด้วยตัวเอง เนื่องด้วยอายุมากแล้ว เพราะลูกหลานห่วงในความปลอดภัยของท่าน แต่ท่านไม่ยอม และไม่ฟังใครทั้งนั้น เมื่อก่อนท่านก็มีคนขับรถให้ แต่มาช่วงระยะหลัง ท่านจะขับรถเองตลอด ไม่ยอมให้ใครมาขับรถให้ สุดท้ายตนก็อยากจะฝากถึงพ่อทวีว่า ให้หยุดขับรถ หรือให้คนอื่นขับแทนให้เถอะ ลูกหลานทุกคนเป็นห่วง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ นายทวี ไกรคุปต์ เพื่อขอฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่ง นายทวี เปิดใจกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นตอนเย็นนั้นตนขับรถจะเข้ากรุงเทพฯ มาถึงบริเวณ ต.นครชัยศรี จ.นครปฐม ตนขับรถมาในเลนส์ขวาสุด มาตามทางปกติ และอาจจะมีการเบี่ยงซ้ายเพื่อแซงรถคันหน้า จนขับมาถึงจุดเกิดเหตุเหมือนมีเสียงคนเรียกตน ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้ยินเสียงพูดว่าอะไร จนตนหยุดรถจนมีผู้ชาย 2 คนลงมาจากรถยนต์กระบะ 1 คน มาเคาะกระจกเรียกตน อีก 1 คน ถือโทรศัพท์ถ่ายรูปตนทันที ซึ่งตอนนั้นตนไม่กล้าลงจากรถเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย จึงลดกระจกลงแค่เพียงนิดเดียว ซึ่งผู้ชายคนที่เคาะกระจกพูดอะไรบ้างตนฟังไม่รู้เรื่อง แต่ได้ยินประมาณว่ารถชน ตนจึงบอกไปว่า ไว้คุยกับตำรวจแล้วกัน
ต่อจากนั้นตนจึงรีบปิดกระจกแล้วโทรแจ้ง 191 ให้มาจนท.ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งหลังจากตำรวจมา ตนเพิ่งจะได้เห็นว่ารถของตนมีรอยล้ออยู่ด้านขวา และตนไม่รู้ว่ารถชนกันตอนไหน ใครชนใครก็ไม่รู้ แต่จากคลิปที่เผยแพร่และข่าวที่ออกไป ตอนนี้ตนตกเป็นจำเลยของสังคมโซเชียลไปแล้ว ซึ่งอีกฝั่งบอกว่า ตนชนแล้วขับรถหนี ซึ่งในความเป็นจริงตนมั่นใจว่า ตนไม่ได้ขับรถชนใคร แถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครผิดใครถูก แต่เหมือนตนโดนพิพากษาไปแล้ว ตนต้องขอความเป็นธรรมให้กับตนเองด้วย อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าตนผิด ขอให้ทางจนท.ตำรวจเข้ามาสืบสวน เก็บหลักฐานต่างๆ ก่อน ใครผิดก็ลงโทษเสียค่าปรับกันไป ซึ่งแม้รถตนเสียหาย ตนก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย หรือจะฟ้องใคร ใดๆทั้งสิ้น วันนี้ต้องขอขอบคุณที่มีพื้นที่สื่อให้ตนชี้แจงด้วย
นายทวี เปิดใจต่ออีกว่า ตนอายุ 84 ปี แล้วทำไมยังขับรถเอง เพราะอดีตที่ผ่านมาตนไม่เคยใช้คนขับรถ ไม่เคยใช้รถหลวง ใช้รถของตัวเอง ออกค่าน้ำมันเองตลอด ซึ่งก็จะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อีกประเด็น ถ้ามีคนขับรถมาขับให้ตน เขาต้องมานั่งรถคันเดียวกับตน แล้วเวลาไม่สบายจะทำให้ตนไม่สบายไปด้วย เนื่องจากห่วงสุขภาพของตนเพราะมีอายุมากแล้ว
ส่วนที่ลูกสาวพูดว่า ทุกข์ใจไม่อยากให้ตนขับรถเองนั้น ตนรู้สึกซึ่งใจ เข้าใจความรัก ความผูกพันของพ่อกับลูก มันเป็นขนบธรรมเนียมของคนไทยอยู่แล้ว ที่น้องเอ๋มีความรักห่วงใยตน กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ แต่ตนก็ขอยืนยันที่จะขับรถด้วยตัวเอง ส่วนถ้าน้องเอ๋ จะหาคนขับรถมาให้ตนอีก ตนก็อาจจะรักษาน้ำใจลูก ให้คนขับรถมาขับให้ 2 -3 วัน แล้วก็ส่งคืนให้น้องเอ๋กลับไปเหมือนทุกครั้ง ที่น้องเอ๋ เคยหาคนขับรถมาให้ตน
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี
Discussion about this post