สุรินทร์-วันที่ 24 มิ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศงานบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน ครูกุ๊ก หรือ น.ส. อังคณา จุดาบุตร อายุ 29 ปี ครูสาวโรงเรียนวัดสุวรรณวิจิตรวิทยา ที่ถูกสามีคือนายวรพงษ์ หรือโบ้ จันคะนา อายุ 26 ปี บุกเข้าไปตามง้อขอคืนดี ก่อนใช้มีดแทงครูกุ๊กหลายแห่ง รวม 8 แผล จนเสียชีวิตภายในห้องพักครูชั้น 2 ของอาคารเรียน ต่อหน้าเพื่อนครูหลายคนอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะกระโดดหนีลงมาจากชั้น 2 ของอาคารเรียน จนขาหักและไม่สามารถหลบหนีไปได้และถูกรวบตัวก่อนนำส่ง รพ.อำเภอปราสาท และส่งต่อรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุรินทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูป้องกันการหลบหนีอย่างใกล้ชิด
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด ของบรรดาญาติพี่น้อง และเพื่อนครู รวมถึง พ่อ แม่ ของทั้งสองฝ่าย และที่หน้าสลดใจกับหลายคนคือ ลูก 2 คนของผู้ตายและผู้ก่อเหตุ มีเด็กหญิงวัย 3 ขวบ และเด็กชายวัย 1 ขวบครึ่ง ที่ไร้เดียงสา ยังคงวิ่งเล่นกับเพื่อนและหยอกล้อกับปู่-ย่า เป็นปกติ โดยไม่รู้ว่าแม่เขาได้จากพวกเขาไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ และในวันพรุ่งนี้(25 มิ.ย.) ก็จะมีการฌาปนกิจศพ ที่วัดตะเคียน ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท เวลา 12.30 น. ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหานายวรพงษ์ เบื้องต้น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และจะมีการดำเนินการยืนฝากขังที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ในวันพรุ่งนี้โดยขณะนี้ผู้ต้องหายังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุรินทร์ เพื่อรอการผ่าตัด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูอย่าง ขณะที่ยุติธรรมจังหวัดและศึกษาธิการ รุดไว้อาลัย แจงสิทธิ์เงินเยียวยา 1.1 แสน ขณะที่โรงเรียนปิดไม่มีกำหนด ครูนักเรียนยังสะเทือนใจอยู่ แม่ผู้ตายรุบุทะเลากันบ่อยก่อนเลิกและตามง้อได้ 2 เดือน ไม่คิดว่าจะก่อเหตุใหญ่ขนาดนี้ ด้านพ่อมือมีด รับไม่ได้กับสิ่งที่ลูกทำ เสียใจที่สุด ที่ผ่านมาหาแต่เรื่องทะเลาะกับเมียมาตลอด
นางชลิดา จุดาบุตร อายุ 53 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ตนเสียใจอย่างมาก หลานต้องขาดพ่อขาดแม่อีก หลานก็จะไปๆมาๆตลอด เคยทะเลาะกันที่บ้านหลายครั้ง เลิกกันได้ 2 เดือนแล้ว ผู้ตายก็กลับมาอยู่กับแม่ หลานก็อยู่กับปู่ย่า รับไปรับมา ทั้งส่งไปโรงเรียนและรับกลับ เขาก็เป็นเสาหลักของครอบครัว เขาทะเลาะกันบ่อน จนลุกสาวหมดความอดทน และตัดสินใจเลิก เขามาง้อหลายรอบ และไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องใหญ่ได้ขนาดนี้ แต่เขาเคยข่มขู่มาก่อนอีกด้วย แม่ของผู้ตายกล่าว

ด้านนายบุญศรี จันคะนา อายุ 73 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ และเป็นปู่ของเด็กทั้ง 2 คน เผยด้วยความคับแค้นใจที่มีต่อลูกชายว่า พอโตขึ้นมาอายุ 12-13 ปี เที่ยวอย่างเดียว เล่นแต่เกมส์ ตนเคยไปไล่ตีที่โต๊ะสนุ๊กมาแล้ว เป็นคนกะล่อนปลิ้นปล้อนโกหกตั้งแต่เล็กมา ตอนอยู่ที่บ้านนี้แม่ยายก็ไล่ไม่อยู่ที่บ้านตนคืน เขารำคาญทะเลาะกันบ่อย แม่ยายเป็นคนธรรมะธรรมโม ไปอยู่ที่บ้านได้ 4-3 วันก็หาเรื่องทะเลาะกัน ทะเลาะกันตั้งแต่ยังไม่มีลูกแล้ว ทะเลาะทุกเรื่องอะไรก็เป็นเรื่องไปหมด เอาแต่ใจตัวเองๆถูกอยู่คนเดียว ตัวลูกสะใภ้เองก็เพิ่งทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ประมาณปีกว่าเอง ส่วนตัวลูกชายตนนั้นไม่ได้ทำงาน โกหกตอแหลไปเรื่อย ขอแต่เงินเมียถ้าไม่ได้ก็เป็นเรื่อง พอให้เงินเมียไป 4-5 ร้อยบาท แป๊บเดียวก็ขอเงินคืน เสียใจมากที่สุดที่มันทำแบบนี้ ถ้าเขาให้เยี่ยมที่โรงบาลจะขอเข้าดูจะไปเยี่ยมแล้วจะกระทืบมันซ้ำเลย มันทำบาปอย่างใหญ่หลวงจริงๆถ้าตบตีก็ยังพอว่า นี่เอาจนชีวิตเขาหาไม่ แล้วลูกทั้ง 2 คน จะอยู่ได้อย่างไร ให้ไปทำงานก็มีแต่เรื่อง เดี๋ยวก็เงินหายๆถ้าอยู่บริษัทใหญ่ๆติดคุกไปนานแล้ว ทำงานไม่ทนอ้างโน่นอ้างนี่ เขาให้เข้าเจ็ดโมงครึ่งตัวเองไปแปดโมงกว่า ยังไม่เคยเห็นจะให้เงินพ่อ แม่ เลยสักห้าร้อยหรือร้อยหนึ่งไม่มี เอาไปลงขวดเหล้ากับเพื่อนหมด เสร็จแล้วก็หาแต่เรื่องเมียพอเมียไม่เปิดประตูให้ก็จะพังบ้าน ทะเลาะกันตีกันต่อหน้าลูก มันไม่สนใจลูกเลย ถ้าเขานำตัวออกจากโรงบาลตนอยากไปเยี่ยมมาก จะไปถามไปทำอะไรยังไม่ขอบอกตอนนี้แล้วแต่โอกาส ก่อนเกิดเรื่องมันบอกว่าจะต้องแก้แค้นมันให้ได้ ต้องเอามันให้ได้ ตนก็พูดไปว่าจะเอาเรื่องอะไรกับมันนักหนา ตอนนั้นแค่ตบตีกันมันก็พอได้แล้ว มันก็บอกว่าจะเอาถึงชีวิตมันเลย และตนยังบอกอีกว่าอย่าทำดูลูกเองสิ พอแล้วอย่าทำ มันก็บอกว่าลูกก็ลูกไป มันไม่สนใจหรอก ดูสิมันเป็นคนประเภทไหนไม่สงสารลูก ขนาดบอกให้เงินลูกบ้าง มันยังว่าเงินที่ให้ไปซื้อของอะไรก็มีแต่มัน ตนเลยบอกให้พอได้แล้วหยุดพูด พูดมามีแต่โกหกทั้งหมด(พูดเพราะกับถุยปากไปด้วย)โกหกตลอด ทรัพย์สินหามาได้ก็ทำลายทุบทิ้งทั้งหมด มีโทรศัพท์กี่เครื่องก็ทุบทิ้งหมด 3-4 เครื่องตนเป็นซื้อให้ จนหมดเนื้อหมดตัวกับลูกชายคนนี้ โทรศัพท์เครื่องหมื่นกว่าบาทที่แม่เขาซื้อให้ลูกสาวเขาใช้ก็โดนทุบพังหมด ตนก็เลยช่วยเงินไปสองพันให้ลูกสะใภ้ไปซื้อใหม่ พอใช้ได้ไม่นานก็โดนทุบอีก ตนก็เลยไปซื้อให้ใหม่สี่พันกว่าบาทได้ใช้ถึงวันนี้ แล้วที่แย่สุดๆตอนที่ลูกชายคนเล็กของมันกำลังจะคลอดมันยังไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนมันอีก ไม่สนใจเมีย พอตนไปหาลูกสะใภ้ที่โรงบาล ลูกสะใภ้มันร้องเลย บอกพ่อหนูให้ไปเบิกเงินๆก็หายไปอีก จากเงินทั้งหมดสามพันกว่าบาท เอามาให้หนูแค่ 800 บาท จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าโรงบาลเจ็ดพันกว่าบาท น่าละอายจริงๆเอาทุกอย่างเลย.
Discussion about this post