จากมือผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี สู่มือประชาชน “ปลานิล ไข่เค็ม ขนมไข่” ผ่านถุงปันสุข 

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2565 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดจวนแจกถุงปันสุขท่ามกลางบรรยากาศ ส่งต่อความห่วงใยให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในปัจจุบัน จำนวน 900 ถุง โดยมีนายอิทธิพล ขวาไทย ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง จิตอาสาพระราชทาน อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัด นักเรียนนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแจกจ่ายถุงปันสุขในครั้งนี้ โดยภายในถุงปันสุขประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง ขนมไข่ ไข่ไก่ น้ำดื่ม น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์ปัจจุบัน และยังมีถุงปันสุขของเด็กๆ ที่มากับผู้ปกครองด้วยเช่นกัน

สำหรับสัปดาห์นี้ได้รับการสนับสนุน ปลานิล และปลาทับทิมสด ๆ ตัวเป็น ๆ กว่า 800 ตัว จากนายอิทธิพล ขวาไทย ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งปลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดได้ทำการจับปลาสดๆ จากบ่อเลี้ยง เพื่อนำมาส่งต่อให้ถึงมือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน ตามหลักโภชนาการและปลอดภัยต่อผู้บริโภค พร้อมไข่เค็มต้มสุก จำนวน 1,700 ฟอง จากนายชวลิต โรจนรัตน์ นายอำเภอไชยา รวมไปถึงขนมไข่หอม นุ่ม ละมุนลิ้น จากนายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง และนางศรีเวียง มีพริ้ง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุราษฎร์ธานี ที่ร่วมกันส่งต่อความห่วงใยให้ประชาชนในครั้งนี้

ทางด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน วันนี้ทำให้รู้ว่ายัง มีใครอีกหลายคน หน่วยงานอีกหลายหน่วยงาน ที่คอยซัพพอร์ทประชาชนในเรื่องของความสมดุลเกี่ยวปากท้อง เพราะปากท้องเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต รวมไปถึงสถานการณ์ในขณะนี้ ค่าครองชีพ ทั่วโลกปรับตัวค่อนข้างสูง พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็มีประชาชนจำนวนมาก ขาดสภาวะคล่องทางอาหาร ถึงแม้รัฐบาลจะมีแนวทางในการดำเนินการต่างๆและจังหวัดก็ได้หาแนวทางมาคอยช่วยเหลือดูแลประชาชนหลายๆกลุ่มให้สอดรับกับนโยบายและเร่งดำเนินการให้ประชาชน มีความมั่นคงทางอาหาร แต่ตัวผมเองก็เข้าใจว่าประชาชนหลายคนมีอุปสรรคที่จะก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นมากกว่าคนอื่นๆ แต่ผมคิดว่ากิจกรรมถุงปันสุขก็ถือได้ว่าเป็นอีกกิจกรรมที่คอยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้บ้างไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ผมขอให้กำลังใจทุกท่านที่พยายามก้าวผ่านในทุกวิกฤต และตัวผมก็อยากจะขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาในทุกด้านมิติ เพื่อประชาชนคนสุราษฎร์ธานีต่อไป ทั้งวันนี้และอนาคต

////รัตติยา พูลศิริ/สุราษฎร์ฯ////