ที่นิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาคร ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษสวาท กายอรุณสุทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทร สาคร นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย (กนอ.) ดร. ศุภพรพงษ์ ชวนบุญ ประธานกรรมการ บริษัท ศิวาชัย จำกัด นางวริศรา ชวนบุญ กรรมการผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาคร นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสาวนันทรัศมี เทพดลไชย ผู้ตรวจราช การกระทรวงยุติธรรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสัมมา ชีพ และผลิตภัณฑ์เพื่อการพัฒนาพฤตินิสัย (สมภพ) นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมและคณะ ลงพื้นที่เพื่อติด ตามความคืบหน้าโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาคร จ.สมุทร สาคร
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) กล่าว ว่า ด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนเสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ตั้งแต่เดือนเมษา ยนที่ผ่านมา โดยมีบริษัท ศิวาชัย จำกัด ยื่นความประสงค์ขอจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาครในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งบริษัทฯ มีแนวคิดพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาครตามแนวทางความร่วมมือระหว่าง กนอ. กระทรวงอุตสาหกรรม กับกระ ทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ที่รับทราบผลการศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาห กรรมราชทัณฑ์ ตามที่กระทรวงยุติ ธรรมได้ทำการศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมฯ มีจุดมุ่งหมายสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้พ้นโทษ สร้างอาชีพในอนาคต ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างจัดทำเอกสารประกอบการจัดตั้งนิคมฯ อาทิ เอกสารด้านกรรมสิทธิ์ที่ดิน การออกแบบระบบสาธารณูป โภค โครงการการศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงิน แนวคิด รูปแบบการพัฒนาโครงการในรายละเอียด เป็นต้น เพื่อจัดส่งให้ กนอ. พิจารณาเสนอขออนุมัติในหลักการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม
ด้าน ดร.ศุภพรพงษ์ ชวนบุญ ประธานกรรมการ บริษัท ศิวาชัย จำกัด กล่าวด้วยว่า โครงการนิคมอุตสาห กรรมทรัพย์สาคร เป็นโครงการที่มีศักยภาพ และเอื้อต่อการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งและโลจิสติก ที่สามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ มีขนาดพื้นที่กว่า 4,132 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 2 ห่างจากถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งตะวันตก เพียง 30 นาที และห่างจากตัวเมืองสมุทรสาคร เพียง 15 นาที โครงการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาคร มุ่งเชื่อมโยงประโยชน์ สร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ ด้วยศักยภาพพื้นที่บริการที่มีประสิทธิภาพ สิทธิประโยชน์ในระยะยาวและแผนการพัฒนาที่รองรับการเติบโตในระดับภูมิภาคให้มีศักยภาพ การแข่งขันในตลาดโลก โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และการเกษตร กลุ่มอุตสาห กรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตและดิจิตัล กลุ่มอุตสาหกรรมเชื้อเพลิง กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กโทรนิกส์อัจฉริยะ กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไป มีมูลค่าการลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท และจะก่อให้เกิดการลงทุนของอุตสาห กรรมเป้าหมายราว 80,000 ล้านบาท พร้อมรองรับแรงงานได้กว่า 30,000 คน รองรับแรงงานจากกรมราชทัณฑ์ได้ราวๆ 16,000 คน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 – 5 ปีข้างหน้านี้
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติ ธรรม กล่าวด้วยว่า ตนยินดีที่ได้เห็นโครงการนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่จัดตั้งตามแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมราช ทัณฑ์ เพื่อส่งเสริมแรงงานราชทัณฑ์ที่พัฒนาฝีมือแรงงานแล้ว ให้กลับสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ มีงานทำ โดยจัดเป็นลักษณะนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน กับการนิคมอุตสาห กรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กระ ทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการสร้างเมืองใหม่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดสมุทรสาครและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างมาก และทำให้แรงงานราชทัณฑ์มีงานทำ นับเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมาก
“ผมเห็นกรมราชทัณฑ์ในการให้ความรู้ ฝึกอบรมผู้ต้องขัง พยายามหางานให้กับผู้ใกล้พ้นโทษ แต่สิ่งที่ตามมาคือการปรับสภาพของผู้จ้างที่ยังเกรงกลัวผู้ต้องขัง ซึ่งถ้าเราจะจัดหางานให้ผู้ต้องขังคงไม่ทัน แต่หากเราตั้งนิคมอุตสาหกรรมได้ จะทำให้เขามีงานทำอย่างยั่งยืน หากสำเร็จจะเป็นแบบอย่างให้ต่างประเทศ การเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญ เราหวังว่า กระทรวงอุตสาหกรรม กนอ.และบริษัทเป็นผู้นำร่อง ไม่ทำให้โครงการเป็นหมัน ตรงนี้จะเป็นต้นแบบและแนวทางให้โอกาสผู้ต้องหาคดีร้ายแรงต่างๆ จะได้ลดลง ไม่ให้คนกลับมาทำผิดซ้ำ ผมมั่นใจจะแก้ไขปัญหาได้มากมาย” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า กล่าวว่า ขอบคุณกระทรวงยุติธรรม กระทรวงอุตสาห กรรม กนอ. ที่ได้สร้างงานสร้างอาชีพ พัฒนาพื้นที่ตรงจุดนี้เป็นแหล่งเศรษฐ กิจใหม่ของจังหวัด นอกจากสร้างงานสร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขังและผู้พ้นโทษแล้ว ยังเป็นแหล่งเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย.
Discussion about this post