
วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ที่จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่และประชาชนจังหวัดนครพนมประกอบพิธีเฉลิมพระเกียรติ พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2565 เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและชาวจังหวัดนครพนม โดยพระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานับประการด้วยพระองค์เอง และทรงพระราชทานพระราชดำริ ต่าง ๆ อย่างมากมาย เพื่อให้เป็นไปตามพระราชปณิ
ธานอันแน่วแน่ในการทรงงานที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด นำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของพสกนิกร ทำให้ทุกคนได้รับการสนับสนุน การพัฒนาอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ นำมาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการจิตอาสาพระราชทาน ที่เป็นพระราโชบายที่ทำให้ประชาชนมีความรักความสามัคคี ช่วยเหลือเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันในทุก ๆ ด้าน นำมาซึ่งประโยชน์แห่งความสุข
โดยในเวลา 06.30 น. ทุกคนได้พร้อมใจกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ สามเณร จำนวน 71 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณวัดสว่างสุวรรณาราม อำเภอเมืองนครพนม จากนั้นได้เดินทางไปที่หอประชุมมรุกขนคร โรงเรียนนครพนมวิทยาคม เพื่อร่วมกันประกอบพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดินประจำปี 2565 ผ่านระบบวีดีทัศน์พร้อมกับส่วนกลางกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น ๆ จากนั้นเดินทางไปร่วมกันประกอบพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลที่ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ทั้งนี้ในช่วงเย็นของวันนี้จะมีพิธี ถวายเครื่องราชสักการะ และวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ หอประชุมมรุกขนคร โรงเรียนนครพนมวิทยาคม
วันเดียวกัน เวลา 06.00 น.ที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ต.สถาพร บุญชู ผู้บัญชา การมณฑลทหารบกที่ 210 พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ตลอดจนคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ร่วมรับมอบภาพวาดฝาผนัง สตรีทอาร์ท คิงภูมิพล ศิลปะแห่งรักและศรัทธา มหาราชาภูมิพล ที่มูลนิธิยังมีเรา สถานีข่าว TOP NEWS ร่วมกับทีมวาดภาพครูอะไหล่ และหน่วยงานต่าง ๆ จัดทำขึ้น เพื่อส่งเสริมงานด้านศิลปะ อันธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ และส่งเสริม สนับสนุนการผลิตสื่อเพื่อสร้าง สรรค์สังคมในรูปแบบของผลงานศิลปะ เพื่อมอบให้คนไทยและทั่วโลกได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิ คุณในหลวงรัชกาลที่ 9 และน้อม นำคำสอนของพระองค์ท่านไปใช้สานต่อในชีวิตตนเองละส่วนรวม
นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่ได้นำสิ่งดี ๆ และยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์อีกหนึ่งหน้าของจังหวัดนครพนมมามอบให้ ซึ่งเมื่อได้รับการประสานจากมูลนิธิยังมีเรา ทางจังหวัดนครพนมก็ได้มีการหารือกับเทศบาลเมืองนคร พนมและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยว ข้องถึงความเหมาะสมของสถานที่ โดยต้องมีความสวยงามสมพระเกียรติ ประชาชนสามารถมองเห็นและเข้าถึงได้ง่าย รวมไปถึงเมื่อคณะทำงานวาดเสร็จเรียบร้อยแล้วกระบวนการเก็บรักษาจะต้องมีมาตรฐานสูงสุด ไม่ให้ใครมาทำลายได้ จึงได้ตรงลงกันว่าจะใช้ผนังอาคารที่ตั้งอยู่ด้านข้างองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่เป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวและประชา ชนทั่วประเทศเดินทางมาเยี่ยมชมอยู่เป็นประจำเป็นสถานที่วาดภาพในครั้งนี้
ด้านครูอะไหล่ หรือ นายชวัส จำปาแสน หัวหน้าคณะทีดวาดภาพ เล่าว่า การที่ได้มาทำงานที่นครพนมทำให้ได้สัมผัสความเป็นที่สุดของที่นี่ในหลาย ๆ อย่าง เริ่มที่สุดแห่งการต้อนรับตั้งแต่ก่อนมา กระทั่งมาวาดภาพจนถึงวันนี้ เพราะตลอดเวลามีประชาชนหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันมาให้กำลังใจไม่ขาดสาย ซึ่งปกติการไปทำที่อื่นจะทำกันแบบเหงา ๆ จนกว่าภาพจะใกล้เสร็จจึงจะคึกคัก แต่ที่นี่มีความสุขมากทำให้การทำงานของทีมงานทุกคนมีพลังและใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นอการตอบแทนชาวนครพนมให้สมกับที่มามอบกำลังใจให้ ที่สุดต่อมาคือบรรยากาศสถานที่ที่วาดภาพ ซึ่งต้องบอกว่าพื้นที่ตรงนี้มีความเด่นเป็นสง่า ใครผ่านไปมามองเห็นได้โดยสะดวก เพราะโล่งแต่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้ทุกคนสามารถมาสัมผัสบรรยากาศและถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกได้ สำหรับภาพวาดในครั้งนี้มีทีมงานมาวาดร่วมกัน 10 กว่าชีวิต โดยอายุน้อยสุดคือน้องริตาที่อายุเพียง 9 ขวบ โดยมีแรงบันดาลใจร่วมกันในการออกแบบ อย่างแรกเลยคือรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 และยายตุ้มที่เป็นชาวนครพนม ที่ในตอนรับเสด็จครั้งนั้นอายุ 90 กว่าปีแล้วแต่ก็รอพระองค์ท่านด้วยใจที่แน่วแน่เพราะรัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีต่อพระองค์ท่าน และเมื่อพระองค์ท่านทรงเห็นกระทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรอย่างยาวนาน โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเสด็จพระราช ดำเนินมาทรงเรียนรู้งานตลอดระยะเวลา ทำให้เป็นเหมือนความหวังต่อไปของประชาชนด้วยพระ องค์ท่านมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการทรงงานที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด.
Discussion about this post