มหาวิทยาลัยรังสิตและตารวจภูธรภาค 1 ร่วมลงนามบนั ทึกข้อตกลงความร่วมมือ ด้านวิชาการ งานการพัฒนานวัตกรรมและการมีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรมภายในงานมีการให้ความรู้ใน เรืองของอาชญากรรมและภัยคุกคามทางไซเบอร์ พร้อมเปิดตัวโครงการ “Cyber Team Heroes” สร้าง เยาวชนไทยรุ่นใหม่ตระหนักถึงปัญหาของภัยคุกคามทางไซเบอร์รูปแบบใหม่เพื่อป้องกันตัวเองจากการตก เป็นเหยือ เมื่อวันที่ 1 สงิ หาคม 2565 ณ ศาลาดนตรสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต
ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงความร่วมมือครัง้ น้ีว่า “มหาวทิยาชัยรังสิตเป็นสถาบนัการศกึษาทมี่นีกศึกษาจำนวนมากและนักศกึษาบางกลุ่มีแนวโน้มในการ ได้รับภัยคุกคามจากอาชญากรรมทางไซเบอรจ์ากกลุ่มมิจฉาชีพที่มาในหลายรูปแบบมหาวิทลัยรังสิตได้ เล็งเห็นปัญหา และมีนโยบายที่ต้องการสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องภัยทางไซเบอร์ให้แก่นักศึกษา เพื่อป้องกันตัวเองจากการตกเป็นผู้เสียหาย ในขณะเดียวกนันมหาวิทยาลัยยังต้องการชุดความรู้ในเร่องของ ขั้นตอนการปฏบิตัติ่างๆหากเกิดเหตุกับตัวนักศึกษาเพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองรวมถึงการนำไปถ่ายทอดต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ให้กับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็น ครอบครวั ชุมชน และสังคม
ทั้งนี้โครงการ “Cyber Team Heroes” โดยตารวจภูธรภาค 1 จะเข้ามาบูรณาการความร่วมมือระหว่างสององค์กร โดยนำจุดเด่นในด้านองค์ความรู้ ทักษะ ความ เชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของทัง้ สององค์กร มาพัฒนาร่วมกันในด้านวิชาการ งานวิจัย การพัฒนา นวัตกรรมต่างๆที่มี ส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรม”
ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตารวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า “ด้วยปัจจุบัน อาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นภัยรูปแบบใหม่ที่กำลังทวีความรุนแรงและแผ่ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นอันเนื่องมาจากที่ประเทศไทยของเรามีระบบการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการพฒันาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งมุมหนึ่งเทคโนโลยีเป็นประโยชน์และทำให้เราเท่าทันโลกยุคดิจิตอลแต่อีกมุมหนึ่งการที่กลุ่มเยาวชน นักศึกษา และประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้งานผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ได้โดยง่าย ผ่านอุปกรณ์คอมพวิเตอร์โทรศพัท์มือถือหรือเครื่องมือสื่อสารอื่นๆก็ตามแต่ขาดความรู้ภูมิคุ้มกันในการป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เชือว่าทุกคนยังมีไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึง จึงทาให้เกิด ช่องทางของมิจฉาชีพในการแสวงหาผลประโยชน์โดยอาศัยกลวิธีและทักษะความรู้ทางเทคโนโลยทีเชี่ยวชาญ ทำให้ตกเป็นผู้เสียหายในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทาง เทคโนโลยีของภาครฐัถึงแม้ให้มีการปราบปรามอย่างจริงจังมาโดยตลอด แต่การเกิดเหตุอาชญากรรม ทางเทคโนโลยกีย็งัคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องดังนั้นทางตารวจภูธรภาค1 เลงเห็นความสำคญัของปัญหาดังล่าว จึงเกิดแนวความคิดในการบูรณาการการทางานร่วมกนักศึกษาสภาบันการศึกษาเพือให้เยาวชนไทย นักศกึษาและประชาชนได้มีความรู้ตระหนักถคงปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตารวจภูธรภาค 1 ได้จัดโครงการ “ฝึกอบรมอาสาสมคัรเยาวชนคนรุ่นใหม่ ป้องกันภัยทางไซเบอร์” (Cyber Team Heroes) เพือเป็นการสรา้งช่องทางการประชาสมัพนัธ์การเผยแพร่ขอ้มูลขยายเครอืข่ายอาสาสมคัร ผ่านนักศกึษา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความรู้และทกัษะในการใช้เทคโนโลยที่ดีและเป็นกลุ่มที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเสี่ยงที่อาจตกเป็นผู้เสียหายเช่น กลุ่มผู้สูงอายุในครอบครัวและคนในชุมชนได้ โดยมีการตั้งเป้าหมายเพือสร้างเยาวชนไทย รู้เท่าทันภัย และเป็นการตัดช่องทางของกลุ่มมิจฉาชีพที่แสวงหาผลประโยชน์ผ่านอาชญากรรมทาง เทคโนโลยรีูปแบบต่างๆ”
อาจารย์วิทูล ทิพยเนตร คณบดีสถาบนั Gen.Ed. ในฐานะประธานความร่วมมือด้านวิชาการ กล่าวถงึความร่วมมอืว่า“สำหรับความร่วมมือระหว่างตารวจภูธรภาค 1 และ มหาวิทยาลัยรังสิตโดยสถาบัน Gen.Ed. นั้นมีด้วยกัน 3 ด้านหลักๆได้แก่ 1.ความร่วมมือทางด้านวิชาการงานวิจัย 2.ความร่วมมือด้านการพฒันานวัตกรรม และ 3.ความร่วมมือด้านการมีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรม โดยมหาวิทยาลัยรังสิต เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในการเริ่มต้นโครงการ “Cyber Team Heroes” ร่วมกับตารวจภูธรภาค 1 เพือเป็นต้นแบบให้สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรอื่นๆนำไปประยุกต์ปฏิบัติเพื่อ ให้เกิดการ สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งและมีประสทิธิภาพระหว่างภาครฐั และสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศในการแก้ปัญหา รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันอาชญากรรม และรักษาความปลอดภยัของนักศึกษาและประชาชนในทุกมิติของภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยมีการบูรณาโครงการ“Cyber Team Heroes” เข้าไปในรายวิชาต่างๆ ของสถาบัน Gen.Ed. เพือร่วมกันออกแบบเน้ือหา กิจกรรมที่ สอดแทรกความรูเ้ท่าทันของภันดังกล่าว รวมถึงแนวทางแก้ไขเชิงบวกทั้งในระยะสั้นและระยะยาวร่วมกันเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งเป็นเกาะป้องกันห้แก่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาและเยาวชนไทยจากกลุ่ม มจิฉาชพีที่แสวงหาผลประโยชน์ผ่านอาชญากรรมทางเทคโนโลย”
Discussion about this post