วันที่ 6 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ได้พบ
ปะนักธุรกิจ และภาคเอกชน เพื่อหารือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและท่องเที่ยวก่อนพบปะประชาชน พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทสท. 3 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน และตาก จำนวน 14 ราย คือ เชียงใหม่ เขต 1 นายภูวฤทธื์ กาญจนเกตุ หรืออ๋อง อดีตประธานสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ เขต 2
นายเอกพล พงษ์พิกุล หรือเอก นักธูรกิจท่องเที่ยวและขนส่ง เขต 3 นายพรชัย อรรถปรียางกูร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 4 ดร.บุญทา ชัยเลิศ อดีตนายกสมาคมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ เขต 5 นางวาสนา ทองสุข ผู้บริหารปางช้างแม่แตง เขต 6 นพ.แทนคุณ นพรัตน์สังวาลย์ หมอนักกิจกรรมสังคม เขต 7 ยังไม่เปิดตัว เขต 8 นายวรโชติ จี้เรือน ผู้บริหารวิทยาลัยนอร์ทฝาง เขต 9 นายปรเมธากร สวนแก้ว หรืออาร์ม นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เขต 10 น.ส.ณัชชา โปธายี่ นักธุรกิจ เขต 11 พ.ต.ท.อดุลย์ คำมูล อดีตตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ลำพูน เขต เขต 1 นายชัยณรงค์ ภู่พิสิฐ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูน อ.เมือง เขต 5 เขต 2 นายณรัศมิน เทพมณี หรือมิ้น อดีตประธานสภาเด็กและเยาวชน จ.ลำพูน ตาก เขต 1 ดร.ศิริกุล
อนุตรพงศ์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เขต 4 นายนัสชัย มูลสาย นักพัฒนาองค์กรเอกชน ตามลำดับ โดยมีกองเชียร์และผู้สนับสนุน ชูป้ายและมอบช่อดอกไม้เพื่อแสดงความยินดี และให้กำลังใจจำนวนมาก
ระหว่างการเปิดตัว คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ยกมือไหว้ พร้อมเดินทักทาย และสวมกอดผู้มาร่วมงาน โดยผู้สนับสนุน ได้ตะโกนเรียกชื่อ “สุดารัตน์” และ “นายก”อยู่ตลอดเวลา ซึ่งผู้ร่วมงานได้ขอถ่ายรูป และเซลฟี่ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกอย่างคึกคัก พร้อมสวมมาลัย มอบดอกมะลิให้กับคุณหญิงสุดารัตน์ โดยชูป้ายนโยบายพรรค ว่า “บำนาญประชาชน 3,000 บาท” และเพิ่มค่าตอบแทน อสม.จาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท ก่อนคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ขึ้นเวที เพื่อแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครและกล่าวปราศัย พร้อมถ่ายภาพหมู่ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร และผู้สนับสนุน ตามลำดับ
่คุณหญิงสุดารัตน กล่าวว่า ได้มาพบปะนักธุรกิจและภาคเอกชนเชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาด้านเศรษฐกิจและท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอเป็นนโยบายแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่องผลิตผลเกษตรราคาตกต่ำ อาทิ ลำไย ซึ่งพรรคมีนโยบายประกันราคา ถ้าเป็นรัฐบาลจะผลักดันราคาลำไยในฤดู 30 บาท/กิโลกรัม นอกฤดู 50 บาท/กิโลกรัม เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนลำไยมีรายได้เพิ่ม และแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ทั้งนี้จะลงพื้นที่พบปะชาวสวนลำไยที่ อ.ส้นป่าตอง เพื่อนำปัญหานำเสนอรัฐบาล โดยทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือดังกล่าว พร้อมระบุว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำ สุดารัตน์ จะทำให้ดูเอง เพื่อเป็นต้นแบบหรือโมเดล แก้ปัญหาผลผลิตลำไยราคาตกต่ำ พร้อมส่งเสริมอาชีพคนตัวเล็กตัวนอกให้ถูกกฎหมาย และส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน โดยเฉพาะโฮมสเตย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีแนวทางแก้ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ให้ชุมชนประกอบกิจการได้ เพื่อสร้างรายได้ในท้องถิ่น
“ทสท. ยืนยันเป็นพรรคที่สนับสนุนประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบไม่ต้องการให้เกิดรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาชอีก ซึ่งปีหน้ามีอายุครบ 61 ปีแล้ว และทำงานการเมืองรับใช้ประชาชนมากว่า 30 ปี ดังนั้นการสร้าง ทสท.ถือเป็นภารกิจสุดท้ายของชีวิต อยากให้ชาวเชียงใหม่ ช่วยกันสร้าง ทสท.ให้สำเร็จ เพื่อมี ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ฺในสภาในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้พูดคำเมืองบางช่วง ว่า ดีใจ๋และยินดีที่ได้มาพบปะป้อแม่พี่น้องชาวเจียงใหม่ ฮักทุกคนขนาด มาเจียงใหม่เหมือนได้ปิ๊กบ้าน เพราะมาเดือนละครั้ง ถ้ามีโอกาสจะไปนอนกับชาวบ้านในทุกเขตของเชียงใหม่ ไม่ขอไปนอนที่โรงแรม ขอไปกินข้าวและนอนกับปี้น้อง ขอแค่ 3 อย่าง น้ำพริกหนุ่ม แคปหมู่ และข้าวเหนียว ก็พอและอยู่ได้แล้ว ซึ่งผู้ร่วมประชุมได้ปรบมือให้กำลังใจ และตะโกนบอกว่า “ยินดีต้อนฮับเจ้า” ท่ามกลางบรรยากาศอย่างเป็นกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรชาวสวนลำไย ที่สหกรณ์การเกษตรอำเภอสันป่าตอง โดยเสวนาปัญหาลำไยกลุ่มผู้นำสภาวิชาชีพเกษตรกร (สอก.) กับผู้นำเกษตรกรลำไย จ.เชียงใหม่ ลำพูน ตาก กว่า 100 คน เพื่อเสนอแนวทางจัดทำร่าง พ.ร.บ.ลำไย ฉบับ ทสท. และแต่งตั้งตัวแทนเป็นคณะทำงานแก้ไขปัญหาวิกฤตลำไย เนื่องจากราคาตกต่ำมากว่า 3 ปีแล้ว นับตั้งแต่โควิดระบาด จนชาวสวนบางรายไม่ยอมเก็บลำไยไปขาย แต่ปล่อยให้เน่าตายคาต้น เนื่องจากไม่คุ้มการลงทุนดังกล่าว
//////////////////////////
Discussion about this post