เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากจังหวัดแม่ฮ่อง สอน ว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 ส.ค.65 นายนิรันดร์ จันทร์แค้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน และ นายชาตรี คำจิ่ง กำนันตำบลห้วยผา อ.เมือง ฯ นำราษฎร จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมาที่ สภ. เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีเจ้าหน้าที่ ตม.แม่ฮ่องสอนและ ตำรวจชุดสืบสภ.เมืองแม่ฮ่องสอน จับกุมคนงานที่กำลังก่อสร้างรั้วในสวนของ นายกอบต.ห้วยผา โดยระบุว่า ผู้ที่ถูกจับกุม เป็นคนที่มีบัตร 10 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมานานหลายสิบปี จนมีบุตรได้สถานะคนไทย ทำไมต้องมากลั่นแกล้งจับกุม ขณะที่มีการจ้างงานหลายแห่งในตัวเมืองเป็นต่างด้าว 100 เปอร์ เซ็นต์ ไม่มีใบแรงงานกลับไม่ถูกจับกุม
ต่อมาทาง พ.ต.อ.ภาสวินทร์ แก้วต่าย ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายพงษ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้ออกมาพบกับราษฎรเพื่อรับเรื่องร้องเรียน จากนั้นได้มีการให้ตัว แทนของราษฎร คือ นายนิรันดร์ จันทร์แค้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ ฮ่องสอน และ นายชาตรี คำจิ่ง กำนันตำบลห้วยผา อ.เมือง ฯ ขึ้นไปเจรจาบนห้องประชุมชั้นสอง ของ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยไม่อนุญาติให้สื่อเข้าไปร่วมรับฟังแต่อย่างใด
นายนิรันดร์ จันทร์แค้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยผา เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหา คม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่ฮ่องสอนและตำรวจภูธรชุดสืบสวนสภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้เข้าทำการจับกุมคนงาน ขณะทำรั้วบ้านในสวนให้กับนายนิรันดร์ ฯ จำนวน 3 คน ได้แก่ นายจายหยด ใจมะ อายุ 48 ปี , นายต้า อายุ 60 ปี ,และ นายสอง อายุ 30 ปี ทั้งหมดอาศัยในบ้านนาปลาจาดเป็นชาวบ้านอยู่มาประมาณ 20-30 ปี ไปรับจ้างทำรั้วบ้านในสวนซึ่งเป็นคนถือบัตรประ จำตัวผู้ไม่มีสัญชาติไทย หรือบัตร 10 ปี และอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนาปลาจาด ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ ฮ่องสอน มากว่า 10 ปี จนมีบุตรได้สัญชาติไทย โดยทางชุดจับกุมอ้างข้อกฎหมายว่า ไม่มีใบขออนุญาตทำงาน ทางราษฎรในหมู่บ้านส่วนใหญ่ไม่พอใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงได้พากันมาประท้วงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน การจับกุมของเจ้าหน้าที่มีเงื่อนงำ ถ้าจะทำตรงไปตรงมา ตนจะพาเจ้าหน้าที่ไปจับกุมแรงงานต่าง ด้าวที่ทำงานตามสถานที่ต่าง ๆ ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่จะกล้าจับไหม ซึ่งการกระทำแบบนี้ ถึงส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม จนมีหลายครั้งที่ชาวบ้านจับปืนมาสู้เจ้าหน้าที่รัฐ
นายชาตรี คำจิ่ง กำนันตำบลห้วยผา เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่ถูกจับกุมตัวไปนั้นมีบัตรสถานะ มีถิ่นที่อยู่ และมีลูกเมียซึ่งเป็นคนไทย โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าบุคคลที่ถูกจับกุมไป ไม่ได้ขออนุญาตทำงาน ซึ่งญาติของผู้ถูกจับกุมไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าหากมีการจับกุมกันเช่นนี้ตนคิดว่าในหมู่บ้านคงไม่มีคนทำงาน ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทำการเกษตร เกี่ยวข้าว ซึ่งเขาช่วยกันอยู่แล้ว ต้องยอมรับว่าเราเป็นชุมชนชายแดน มีพี่น้องที่มีสถานะต่างด้าว ยังไม่ได้สัญชาติ แต่ลูกหลาน ลูกเมียเขาเป็นคนไทย ทำมาหาเลี้ยงชีพที่สุจริต บางคนก็เข้ามาอยู่นาน 20-30 ปี แล้ว ก็มี บางคนลูกเกณฑ์ทหารแล้วก็มี และ เรียนหนังสือเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วก็มี เพียงแต่พ่อหรือแม่ไม่มีสัญชาติ แต่มีบัตรที่มีสถานะ 10 ปี จากสำนักทะเบียนออกเลขบัตรให้ ตนจึงได้มาถามถึงเหตุที่เกิด ความชอบธรรม
นายพงษ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางมาพบกลุ่มผู้ชุมนุม และร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแกนนำ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ผู้ที่ถูกจับกุมเป็นบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทยถือบัตรสีฟ้า หรือบัตรที่อายุ 10 ปี และมีภรรยาและลูกเกิดที่เมืองไทย ซึ่งถือว่ามีถิ่นที่อยู่ที่ถาวร เจ้าหน้าที่ควรต้องใช้หลักรัฐศาสตร์เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเกิดความขัดแย้งออกไปเป็นวงกว้าง เพราะบุคคลที่มีครอบครัวถาวรในเมืองไทยก็จำเป็นที่จะทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ดังนั้นควรใช้ความเอ็นดูและเห็นใจซึ่งกันและกันด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากมีการเจรจาระหว่างตัวแทนผู้ประท้วงของราษ ฎรบ้านนาปลาจาด กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาในข้อหาไม่มีใบอนุญาติทำงาน และปล่อยตัวในที่สุด.
Discussion about this post