ราชบุรี – หนุ่มปืนดุ อุกอาจบุกยิงรัวเครือญาติตกนั่งร้านดับ แถมกระทืบหน้าซ้ำ 

เมื่อเวลา 17.50 น ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สุดแก้ว รอง สว.(สอบสวน)สภ.ดำเนินสะดวก ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 236 หมู่ 4 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.เทิดเกียรติ รักพานิชมณี ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก ได้รับทราบ ก่อนรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมจนท.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี, จนท.ชุดสืบสวน สภ.ดำเนินสะดวก แพทย์เวรรพ.ดำเนินสะดวก และจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี

ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านชั้นเดียว ซึ่งเป็นโรงเก็บหอมและกระเทียม บริเวณภายในบ้านพบผู้เสียชีวิตเป็นชายสวมเสื้อสีน้ำเงิน สวมกางเกงขาสั้นสีเทา ทราบชื่อต่อมาคือ นายธีรยุทธ หรือ นายกบ ใจดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.รามคำแหง 36/1 แยก 1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ สภาพศพนอนหงายเลือดเต็มใบหน้า พบรูกระสุนจากอาวุธปืนเข้าใต้คาง 1 นัด บริเวณโหนกแก้มซ้ายทะลุขวา 1 นัด และใต้รักแร้ขวาและซ้ายอย่างละ 1 นัด ตัดขั้วหัวใจจนเสียชีวิตบริเวณข้างนั่งร้านสูงประมาณ 3.5 เมตร ห่างพบประมาณ 5 เมตรพบซองปืน 1 ซอง และจานข้าวและเศษอาหารตกอยู่

ในที่เกิดเหตุยังพบคนงานที่เห็นเหตุการณ์อีก 4 คน จนท.ตำรวจจึงเชิญตัวมาสอบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสมควร เสาร์ต้น อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นน้องชายฝ่ายผู้หญิงของเจ้าของบ้าน โดยคนงานที่เห็นเหตุการณ์ได้ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.30 น. ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาดูผู้ตายที่กำลังซ่อมไฟอยู่บนนั่งร้าน แต่ไม่ได้มีการโต้เถียงหรือพูดคุยอะไรกัน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุ ได้เดินกลับไปที่บ้านที่อยู่กับบ้านที่เกิดเหตุ และกลับเข้ามาที่บ้านหลังเกิดเหตุอีกทีโดยถือจานข้าวมาด้วย เมื่อมาถึงผู้ก่อเหตุได้โยนจานข้าวทิ้ง แล้วจ่อยิงผู้ตายทันทีโดยผู้ตายร้องห้ามว่า อย่ายิง แต่ก็ถูกยิงจนตกจากนั่งร้าน จากผู้ก่อเหตุได้จ่อยิงผู้ตายอีกหลายนัด ทั้งที่ผู้ตายพยายามร้องขอชีวิต แถมผู้ก่อเหตุยังกระทืบที่ใบหน้าผู้ตายอีกหลายครั้งจนผู้ตายแน่นิ่งไป จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินออกไปที่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุพร้อมยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 2 นัด พร้อมตะโกนว่า “นามสกุล เสาร์ต้น ไม่เคยกลัวใคร” ก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่บ้าน

ต่อมาจนท.ตำรวจ ได้ติดตามผู้ก่อเหตุไปที่บ้านเพื่อจับกุมตัว แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธ จึงประสานผู้ใหญ่บ้านและผู้ใหญ่ที่ผู้ก่อเหตุนับถือเข้าเกลี้ยกล่อม จนผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว โดยผู้ก่อเหตุได้ส่งปืนลูกโม่ขนาด .38 พร้อมกระสุนปืนให้กับทางผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจนท.ตำรวจ จะเข้าไปรวบตัวผู้ก่อเหตุและนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ดำเนินสะดวก โดยเจ้าตัวอ้างว่า มีปัญหากับทางผู้ตายและถูกผู้ตายด่าบุพการีจนมาก่อนเหตุ โดยใช้ปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงผู้ตาย 1 นัดจนตกลงมานั่งร้านแล้วจึงยิงผู้ตายซ้ำอีก 3 นัด จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการถาม ลูกชาย เจ้าของบ้านให้การว่า ผู้ตายเป็นหลานชายของพ่อ ซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ และเพิ่งเดินทางมาที่บ้านเพื่อเยี่ยมพ่อและทำงานให้พ่อ โดยพาลูกชายอายุ 3 ขวบ และ5 ขวบมาด้วย ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นน้องชายของแม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเกือบ 4 ปีก่อน ผู้ก่อเหตุกับผู้ตายเคยมีปากเสียงกันเกี่ยวกับเรื่องที่จอดรถ แต่ก็เคลียร์กันไปแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นมาทั้งคู่ก็ไม่เคยพูดคุยกับหรือมีเรื่องกัน แต่ผู้ก่อเหตุกับแม่และพ่อของตน มีปัญหาเรื่องที่ดินมรกดกเกือบ 1 ไร่ ที่ผู้ก่อเหตุปลูกบ้านอยู่ ซึ่งผู้ก่อเหตุกำลังจะมีการฟ้องร้องเพื่อของแบ่งที่ดินกันอยู่

ซึ่งญาติๆของตนกลัวผู้ตายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนมั่นใจผู้ตายไม่เคยไปทะเลาะกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ทางญาติเป็นห่วงลูกชายของผู้ตายทั้ง 2 คน อายุ 3 กับ 5 ขวบ ที่ต้องมากำพร้าพ่อโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ซึ่งผู้ตายเป็นคนดีและเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังจากนี้ครอบครัวผู้ตายจะอยู่อย่างไร เพราะก็มีฐานะไม่ค่อยจะมี

ด้านนายวศิณ หุ่นกลอย ผญบ.หมู่ 4 ต.บ้านไร่ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเดินมาดูลาดเลาก่อน 1 รอบแล้วจึงลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายที่กำลังซ่อมไฟอยู่ในบริเวณที่เก็บหอมกระเทียม ซึ่งมีคนงานกำลังทำงานอยู่ 4 คน ซึ่งผู้ก่อเหตุจงใจเดินมาหาผู้ตายและยิงจนผู้ตายถึงแก่ชีวิต แล้วหลบหนีไปอยู่ที่บ้านฝั่งตรงข้าม หลังจากนั้นตนและกำนันได้พาจนท.ตำรวจเข้าไปรวบตัวผู้ก่อเหตุและพบปืนขนาดจุด38 ที่บรรจุกระสุนไว้เต็มลูกโม่ ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุก็เป็นเหมือนเครือญาติกัน ซึ่งผู้ตายจะอยู่ที่กทม. นานๆถึงจะมาบ้านที่เกิดเหตุ โดยเจ้าของบ้านจะเรียกให้มาช่วยทำงานแค่นั้น ซึ่งที่ผ่านมาผู้ตายกับผู้ก่อเหตุเคยมีปากเสียงกันเรื่องที่จอดรถแค่ครั้งเดียวซึ่งนานมาหลายปีแล้ว แต่บ้านผู้ก่อเหตุกับเจ้าของบ้านเกิดเหตุมีปัญหาสะสมกันมาตลอดทั้งเรื่องถังขยะ เรื่องบ้านที่ดินซึ่งกำลังจะมีการฟ้องร้องกันอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นชนวนในการก่อเหตุครั้งนี้มากกว่า

เบื้องต้นทางจนท.ตำรวจ ได้นำภาพกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ พร้อมเรียกสอบปากคำคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อรวบรวมสรุปสำนวนคดี เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ และยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรโดยไม่รับอนุญาต กับนายสมควรไว้ก่อน ส่วนร่างของนายธีรยุทธ ได้ส่งไปผ่าชันสูตรที่นิติเวชของรพ.ราชบุรี ก่อนจะมอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป

/////////////////////////////////////////////////////////

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี