วันที่ 13 ส.ค.65 สถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่อง สอนตลอดทั้งวัน ทำให้อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ฮ่องสอน ต.ปางหมู และอ่างเก็บน้ำแม่สกึ้ด ( ม่อนตะแลง ) ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน มีปริมาณน้ำเกินพิกัดสูงถึงขีดแดงล้นสปริงเวย์ หากยังมีพายุและฝนตกหนักต่อเนื่องติดต่อกันนานหลายวัน อาจจะเกิดปัญหาน้ำทะลักลงสู่พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ด้านล่างของอ่างได้ โดยเฉพาะในเขตเทศกาลเมืองแม่ฮ่องสอน
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดแม่ฮ่อสอน มีแผนเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ขอให้ประชา ชนอย่าหวั่นวิตก เนื่องจากอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง เป็นอ่างขนาดกลาง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ที่บ้านใหม่ หมู่ 5 ต.ปางหมู อ.เมือง เป็นเขื่อนดิน สูง 23 เมตร ยาว 226 เมตร สันเขื่อนกว่าง 6 เมตร ปริมาณน้ำที่ระดับเก็บกัก 0.881 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ หรือประมาณ 880,000 ลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่สกึ้ด บ้านม่อนตะแลง ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เป็นเขื่อนดิน สูง 18 เมตร ยาว 280 เมตร สันเขื่อนกว้าง 6.00 เมตร ปริมาณน้ำที่ระดับเก็บกับ 0.540 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ หรือประมาณ 540,000 ลูกบาศก์เมตร หลังจากมีพายุและฝนตกลงมาติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่งมีปริมาณน้ำเกินพิกัดถึงขีดแดงล้นสปริงเวย์ หากฝนยังคงตกต่อเนื่องไม่หยุดก็น่าเป็นห่วง
ในการเตรียมความพร้อมและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่บอกว่า การสร้างอ่างแต่ละแห่งต้องทำสะปริงเวย์เพื่อระบายน้ำให้ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ระดับน้ำสีแดงหมายถึงน้ำเต็มอ่าง 100 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำเพียงพอที่จะกักเก็บไว้ในช่วงฤดูแล้ง อ่างคงไม่แตกง่าย ๆ ขณะนี้มีฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวัน แนวทางแก้ปัญหา ได้ทำการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ฮ่องสอน ไปยังอ่างเก็บน้ำแม่สกึ้ด และผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่สะกึ้ดไปเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ศูนย์บริการและพัฒนาตามพระราชดำริท่าโป่งแดง บ้านท่าโป่งแดง ต.ผาบ่อง เพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตรของราษฏร พร้อมทั้งระบายน้ำลงลำห้วยม่อนตะแลง เป็นลำน้ำธรรมชาติ ให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำปาย น้ำในอ่างอีกส่วนหนึ่งก็ส่งไปทำระบบประปาภูมิภาคเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนกว่า 6,000 หลังคาเรือน
เนื่องจากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ฮ่อง สอน เป็นอ่างเก็บน้ำที่รับน้ำมาจากภูเขา สร้างมาตั้งแต่ปี 37 จะมีทางระบายน้ำล้นเพื่อไว้บริหารจัดการ จริง ๆ แล้ว สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติกำหนดไว้ อ่างขนาดกลางจะต้องมีการกักเก็บน้ำได้ 2 ล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นไป แต่อ่างแม่สะกึ้ดเก็บน้ำได้เพียง 5 แสน ลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างห้วยแม่ฮ่องสอนเก็บน้ำได้เพียง 8.8 แสนลูกบาศก์เมตร ยังไม่ถึงล้านลูกบาศก์เมตร ไม่มีปัญหาเรื่องอ่างแตก คือ อ่างจะแตกได้ต้องมีน้ำรั่ว และน้ำล้นข้ามสปริงเวย์ มีฝนตกหนักติดต่อกันนาน ถึงจะทำให้อ่างพังได้ แต่โดยธรรม ชาติอ่างจะใช้ทางระบายน้ำล้น เมื่อน้ำเกินก็ต้องไหลออกทางระบายน้ำลงสู่ลำน้ำเดิม แต่ถ้าฝนตกหนักเกิน 200 มม. อาจจะเกิดปัญหาได้ การแก้ไขก็ต้องใช้การระบายน้ำลงสู่ธรรมชาติสู่ลำน้ำเดิม ถ้าฝนไม่ตกหนักถึง 200 มม.ติดต่อกันหลายวัน ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องอ่างแตกหรือน้ำท่วม ขอให้ประชาชนสบายใจได้ เพราะทุกวันคนเกิดตกใจน้ำล้นสปริงเวย์ คงไม่วิกฤตขนาดนั้น ถ้าฝนไม่ตกติดต่อกันหลายวัน ก็สามารถระบายน้ำได้มากแล้ว ปัจจุบันก็กำลังผันน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำ 4 แห่งที่ศูนย์โป่งแดง เพื่อให้มีน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง
เรื่องน้ำเต็มอ่างขึ้นสีแดงล้นสปริงเวย์ นั้น ไม่ห่วง เพราะพื้นที่รับน้ำน้อยมาก น้ำที่เต็มอ่างแม่สะกึ้ด เพราะเป็นการผันน้ำมาจากอ่างห้วยแม่ฮ่องสอน การระบายน้ำหากจะเปิดให้น้ำไหลลงไปมากเกรงว่าจะไปกระทบต่อชาวบ้านและพื้นที่การเกษตรของราษฏร ก็ต้องค่อย ๆ ระบายลงไปเรื่อย ๆ
โดยทางด้าน นางหน่อนีกี (ไม่มีนามสกุล )เกษตรกรบ้านใหม่ ต.ปางหมู ทำการเกษตรอยู่ในพื้นที่ด้านล่างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ช่วงกลางเดือน ก.ค.65 ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำจากลำห้วยได้ไหลทะลักเข้าพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนชาวบ้านถูกน้ำท่วมหลายหลัง ขณะนี้ก็ยังรู้สึกวิตก แต่ก็ได้เตรียมความพร้อมเก็บข้าวของที่จำเป็นไปไว้ยังบ้านญาติบางส่วนแล้ว และก็ยังคงเป็นกังวนกับนาข้าวที่กำลังปักดำ หากฝนยังไม่หยดตกน้ำก็อาจจะไหลทะลักลงมาท่วมได้.
Discussion about this post