
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ส.ค. 65ที่โรงแรม ปาร์คอินทาว อ.เมือง จ.ปัตตานี คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คพส.) นำโดย พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้ารคณะพูดคุยสันติสุข พลตรีธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 เปิดประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่ อีกครั้ง โดยมีกลุ่มผู้ประสานงานทั้ง 8 กลุ่ม เข้าร่วมกว่า 200 ท่าน โดยที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องความคืบหน้า การดำเนินการพูดคุย สถานการณ์ภาคใต้ล่าสุด รวมถึงมีการพูดคุยตั้งข้อสังเกตุ และข้อเสนอในเรื่องสถานการณ์ความรุนแรง ใน 3 จังหวัดล่าสุดด้วย มีการเสนอเป็นรายจังหวัด ในที่ประชุมยังมีการยื่นหนังสือข้อเสนอจากกลุ่มสมาพันธ์ชาวไทยพุทธ จชต.เสนอเรื่องยุติความรุนแรง และเรื่องการทำงานในพื้นที่ ความถดถอยชาวไทยพุทธ และกลุ่มสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชน จังหวัดชาย แดนภาคใต้ ยื่นข้อเสนอด้วยซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ 5 ครั้ง ล่าสุดครั้งที่ 5 เมื่อ1 – 2 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้ผลสรุปสำคัญ 2 ข้อ คือ การลดความรุนแรง ระยะที่ 2 เพื่อ ต่อยอดรอมฎอนสันติสุข โดยจะมีการหารือกันในรายละเอียดในการประชุมคณะทำงานทางเทค นิคเร็วๆนี้ และอีกเรื่องคือ ดำเนินการจัดตั้งคณะติดตามสถานการณ์ร่วม ,และมีกลไกการปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่คู่ขนานไปด้วย ซึ่งมีผลถึง กลุ่มขบวนการให้ปรับเปลี่ยนแนวทางในการต่อสู้ จากการใช้ความรุนแรงมาสู่การต่อสู้ด้วยสันติวิธีมากขึ้น และมีการพูดคุยในประ เด็นสารัตถะ เพื่อนำไปสู่การยุติความรุนแรง ซึ่งทำให้เหตุการณ์ที่ลดลงอย่างมากในห้วงรอมฎอนสันติสุขเป็นการพิสูจน์ทราบได้ว่า กลุ่ม BRN บนโต๊ะเจรจามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มกองกำลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสุดท้ายประเด็นนโยบายแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 3 แนว ทางของรัฐบาล(ความมั่นคง การพัฒนา และการพูดคุยฯ) ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงใน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น อันดับแรกจะต้องรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจน นำผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในที่สุด อย่างไรก็ตามไม่ว่ากลุ่มไหนที่ก่อเหตุความรุนแรง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะมีด้านสังคม เศรษฐกิจ ซึ่งสถานการณ์โควิด19 ที่ผ่านมาก็เพิ่งผ่านพ้นไป เศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ก็ได้รับผลกระทบ ตนก็ขอประณานการก่อเหตุความรุนแรง ซึ่งการก่อเหตุอย่างนี้ได้รับผลบกระทบทั้งกลุ่มเด็กและสตรี ก็เป็นการละเมิดสิทธิ์ สำหรับการพูดคุยก็เป็นข้อเสนอของรัฐบาลเพื่อหาแนวทางสันติวิธี ซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมรับ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ประชาชนลดความเชื่อมั่น แต่ยังคงคาดหวังในการพูดคุยสันติสุขต่อไป
พลเอก วัลลภ กล่าวอีกว่า หลายๆองค์กรก็ยังพยายามใช้แนวทางความรุนแรงอยู่ ซึ่งเราให้ปรับเปลี่ยนการใช้ความรุนแรง มาใช้แนวทางสันติ แต่ถ้าใช้ความรุน แรงก็ได้รีบผลกระทบเป็นวงกว้าง และประชาชนก็ออกมาประณาม และต่อต้านการใช้ความรุนแรง ส่วนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเรายังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใดชัดเจน แต่วงการประชุมทุกฝ่ายก็ยืนยันมุ่งมั่นในการพูดคุยหาทางออกร่วมกันได้ ด้าน สล.3 ก็กำลังศึกษาด้านที่เขาเสนอ แล้วก็ฝ่ายเราเสนอ แต่บทสรุปยังไม่ชัดเจน ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ที่ผ่านมาเราก็พยายามพูดคุย แต่สิ่งที่เราต้องการคือการลดความรุนแรง เราจะพยายามถึงจุดนั้นให้ได้ ส่วนในครั้งที่ 6 ที่จะมีการพูดคุยสันติสุข ก็จะเป็นการร่วมมือทั้ง 2 ฝ่ายจะทำให้มีประสิทธิภาพควบคุมความรุนแรง.
Discussion about this post