
ณ โครงการหมู่บ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์ (เฟส 1) หมู่ที่ 3 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ พร้อม มอบบ้านปันสุขฯ จำนวน 23 ห้อง มูลค่าโดยรวมกว่า 8 ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวผู้ยากไร้ของตำบลพันท้ายนรสิงห์ โดยมีนายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ในฐานะประธานมูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ และเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการโครงการบ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ที่ให้การสนับสนุนการจัดสร้างฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานพร้อมกับแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับมอบบ้านปันสุขพันท้ายนรสิงห์ที่จัดขึ้นนี้ ในการนี้ก็ได้มีการจัดพิธีทำบุญถวายภัตราหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย และมอบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้สนับสนุนสร้างบ้านปันสุขทั้ง 23 ห้องก่อนที่จะจัดมอบเครื่องอุป โภค บริโภคให้แก่ผู้เข้าพักอาศัยในแต่ละห้อง และที่หน้าห้องทุกห้องยังมีการติดกระดาษแจ้งปัญ หา เพื่อให้เจ้าของห้องได้เขียนปัญหาที่พบอันจะนำไปสู่การแก้ไขให้ทุกคนมีความสุขในระดับหนึ่งอีกด้วย
นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต. พันท้ายนรสิงห์ / ประธานมูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างบ้านปันสุขพันท้ายนรสิงห์ (เฟส 1) นี้ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ซึ่งเกิดจากนโยบายในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยด้วยการสร้างบ้านพักให้กับครอบครัวผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ไร้ที่พึ่งในสังคมในเขตพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ ตลอดจนยังเพื่อเป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ไร้ที่พึ่งทางสังคมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ จึงได้ร่วมกับ มูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ และนิคมสหกรณ์บ้านไร่ ดำเนินการโครงการ “บ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์” โดยประสานกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ บริษัท ห้างร้านตลอดจนเพื่อนๆ ในการร่วมกันสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างบ้าน รวมทั้งสิ้น จำนวน 23 ห้อง ให้แก่ครอบครัวผู้ที่ผ่านการพิจารณาอนุมัติความช่วยเหลือจากคณะกรรมการ ให้เข้าพักในโครงการฯ ได้
นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับ “โครงการบ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์” นี้ มีแนว ทางการดำเนินโครงการโดยเริ่มจากการหาที่ดินที่จะทำโครงการ โดยได้จัดซื้อที่ดิน 3 งาน 10 ตารางวา ในบริเวณพื้นที่นี้ ด้วยงบประมาณส่วนตัว ในวงเงิน 2,300,000 บาท พร้อมกับจัดซื้อเนื้อที่ดินประกอบค่าถมปรับพื้นที่อีกจำนวน 600,000 บาท รวมเป็นเงินเบื้องต้น 2,900,000 บาท จากนั้นได้รวบรวมกลุ่มเพื่อน ผู้ที่มีจิตที่เป็นการกุศล ดำเนินการสร้างห้องพักพร้อมอยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้ โดยมีมูลค่าการก่อสร้าง ห้องละ 200,000 บาท จำนวนทั้งสิ้น 23 ห้อง รวมเป็นเงินค่าก่อ สร้างทั้งสิ้น 4,600,000 บาท อีกทั้งยังมีการจัดสรรงบเพื่อการปรับภูมิทัศน์ถนนและเสริมความสวย งามประมาณ 400,000 บาท โดยทั้งหมดนี้สรุปเป็นงบประมาณเบื้องต้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 7,900,000 บาท แต่ยังไม่รวมถึงการดูแลด้านอาหาร ที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ กับ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพให้ผู้ที่อยู่อาศัยได้มีรายได้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ทั้งในปัจจุบันและอนา คต ซึ่งหากจะคิดมูลค่าโดยรวมทั้งหมดแล้วก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 8 ล้านบาท
นายวัฒนาฯ ยังกล่าวเสริมอีกว่า หลังจากนี้ทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ ยังได้มีการโครงการ “บ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์ เฟสที่ 2 ต่อ” โดยได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากนิคมสหกรณ์บ้านไร่ เพิ่มเติมในการจะได้จัดทำโครงการบ้านปันสุขอีกจำนวน 2 แห่งได้แก่ 1) บริเวณที่ดินริมคลองหมู่บ้านพฤกษาบางขุนเทียน หมู่ที่ 6 และ 2) บริเวณหน้าวัดวิสุทธิวราวาส หมู่ที่ 6 โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเนื้อที่ 2 งาน เพื่อรองรับสำหรับผู้ยากไร้ที่อยู่อาศัยและผู้ที่ขาดที่พึ่งพิงของตำบลพันท้ายนรสิงห์ต่อไปอย่างยั่งยืน ซึ่งการดำเนินโครงการฯ เฟส 2นั้น ยังอยู่ในระหว่างของการสำรวจข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และวางแผนในการดำเนินการจัดสร้างต่อไปอย่างเร็วที่สุด

นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต. พันท้ายนรสิงห์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนเองในฐานะผู้นำท้องถิ่น รู้สึกมีความยินดีและปลาบปลื้มใจที่ได้มีส่วนช่วยผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ไร้ที่พึ่งในสังคม โดยเฉพาะการได้เข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนในตำบลพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งเป็นถิ่นเกิดของตนเองและครอบครัว การได้เห็นรอยยิ้ม ได้เห็นว่าทุกคนมีความหวังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งตนเองและพันธมิตรที่ให้การสนับสุนน ก็พร้อมที่จะเดินหน้าช่วยเหลือสังคมต่อไป
ขณะที่ผู้ยากไร้ฯ ซึ่งได้รับการพิจารณาให้เข้ามาอยู่ในโครงการบ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์ เฟส 1 นี้ ก็บอกว่า ตนเองรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณผู้ที่ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างมาก เพราะบ้านเดิมนั้นแทบจะไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลยแม้แต่ยุง พอได้มาอยู่ในโครง การนี้ตนเองและหลานสาว ก็รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น และขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างบ้านปันสุขให้แก่ผู้ยากไร้ในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์.
Discussion about this post