เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 จากการวิจัยกาแฟพันธ์อาราบีก้า ในพื้นที่อำเภอบันนังตา อำเภอธารโต และอำเภอเบตงจังหวัดยะลา เหมาะสมทำการปลูกกาแฟอาราบีก้า เพราะเป็นพื้นที่สูง ซึ่งที่ผ่านมามีเกษตรกรในพื้นที่ 3 อำเภอ ปลูกกาแฟพันธ์อาราบีก้าแล้ว จำนวน 200,000 ต้น
ทั้งนี้นายมีชัย อมรพัฒนกุล นายกสมาคมบริสต้าแห่งประเทศไทย จับมือกับภาคเอกชน กรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วยนายนฤพล สุคนธชาติ ประธานสมาพันธ์ SMe จังหวัดยะลา และนายพิพัฒน์ ดิษฐพงศ์ภักดี ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอราบี ก้า ในพื้นที่ ลงพื้นที่แปลงกาแฟของเกษตรกรที่ปลูกกาแฟอาราบีก้า ในพื้นที่อำเภอธารโต เพื่อให้เกิดการตื่นตัวในการพัฒนาและร่วมมือกันของทุกฝ่ายในพื้นที่ปลูกกาแฟจังหวัดยะลา ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ คือตั้งเริ่มการเพาะปลูกต้องมีการวางแผนการผลิตที่เหมาะสมกับพื้นที่และมีองค์ความรู้ในทุกส่วนของกระ บวนการผลิตกาแฟ เพราะทุกปัจจัยตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อปลูก การบำรุงรักษา การเก็บเกี่ยวผลผลิต และ กระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟ ส่งผลต่อคุณ ภาพของกาแฟ
ผลผลิตเมล็ดกาแฟ ที่อ.ธารโต ได้สัมผัสตัวเอง คุณภาพก็เท่าเทียมกับพื้นที่อื่นๆในประเทศ ทั้งนี้ได้แนะนำการวางตลาดรองรับในอนาคตใกล้นี้ คุณภาพของกาแฟที่ปลูก และพร้อมที่จะส่งเสริมกาแฟยะลาให้เป็นกาแฟแบรนด์ยะลา ดึงคนนอกพื้นที่มาดื่มกาแฟที่เป็นมากกว่ากาแฟ และเป็นของฝากกลับบ้านได้” นายกสมาคมบาริสต้าแห่งประเทศไทย กล่าว
ด้านประธานสมาพันธ์ SMe จังหวัดยะลา พร้อมด้วยเครือข่ายส่งเสริมเกษตรปลูกกาแฟในพื้นที่ ร่วมกันพลักดันผลผลิตกาแฟคุณภาพจากเกษตรกรต้นน้ำ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กาแฟเป็นมูลค่าของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดยะลา
เพราะคุณภาพกาแฟ ไม่ใช่แค่การดื่ม แต่อยู่ที่การปลูกรักษาที่ใส่ใจ และเข้าใจ สมาพันธ์ SMe จังหวัดยะลา จัดอบรมให้ความรู้ผู้ปลูกกาแฟ พร้อมนำเกษตรกรทัศน ศึกษาดูงานในสถานที่อุตสาห กรรมกาแฟ ต่อไป” นายนฤพล สุคนธชาติ ประธานสมาพันธ์สมาคม sme จังหวัดยะลา กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ ทางผู้ประสานงานพรรคภูมิใจไทย กล่าวนำเสนอเรื่องนี้ จะเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่จะนำไปเสนอเเนะเพื่อให้ มีนโยบายช่วยเหลือชาวบ้านด้านส่งเสริมเกษตรเชิงท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมธุรกิจเกี่ยวกับด้านกาแฟกันต่อไป.
Discussion about this post