
กรณี แม่วัย 41 ปีชาวสกลนคร หอบลูกชายวัย 6 ขวบขี่ รถ จยย.หนีตายผัวคลั่งยาทำร้ายกลางดึก เป็น ระยะทางกว่า 40 กม. ขับพาลูดหนีตายไปอย่างไม่มีจุดหมาย โดยลูกชายบอกหนูจะช่วยแม่ให้ไปตามแสงไฟหมอลำ แล้วพวกเราจะรอด โชคช่วยที่โรงเรียนจัดงาน ชาวบ้านเห็นแล้วสุดสงสารให้นอนที่ห้องสมุด วอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ
โดยนายสมชาย อินทะนู ครูโรงเรียนบ้านค้อดอนแคน ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี แจ้งผู้สื่อข่าวมาทำข่าว
โดย น.ส.วันเพ็ญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาวบ้านบ้านบงเหนือ อ.สว่างแดนดิน พร้อมลูกชายคือ ด.ช.โชค (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ถือกระเป๋ามาหาเสื้อผ้า เดินมาพบมาหาผู้สื่อข่าว โดยมีรถจยย.จอดอยู่ข้างๆ พร้อมเปิดเผยว่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ตนเองและลูกชายได้ขับรถมอเตอร์ไซด์หนีตายสามีที่คลั่งยา ออกจากบ้านที่บ้านบงเหนือ ต.บงเหนือ อ.สว่างแดนดิน เนื่องจากถูกสามีคือนายไชยยันต์ บุญคุณ อายุ 41 ปี สามีชาวจ.ระยอง เสพยาจนคลั่งทำร้ายตนเองเป็นประจำ และก่อนออกมาได้ทำร้ายตนเองใช้ไม้และกำปั้นทุบตีจนหน้าบวมตนเองทนไม่ไหวแล้ว
สาเหตุเนื่องจากผัวคนนี้คลั่งยาและจะขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่ตนเองไม่มีให้ และหาว่าตนเองจะไปมีคนใหม่ ตนเองจึงอาศัยจังหวะที่เขาออกไปหาเพื่อนเสพยาด้วยกัน จึงหอบลูกชายที่กำลังเรียนชั้นอนุบาลขี่รถจยย.ออกมาจากบ้าน ไปแบบไม่มีจุดหมาย ขับออกจากบ้านที่บ้านบงเหนือ มาทาง อ.ไชยวาน และมาทาง อ.กู่แก้ว ไปทางตามเรื่อยๆ ทั้งมืดและกลัว ยังไม่รู้จุดหมาย จู่ๆ ลูกชายก็บอกว่า แม่ๆ หนูจะช่วยแม่ให้รอด แม่ไปตามแสงไฟหมอลำที่ส่องขึ้นฟ้า แล้วจะมีคนช่วยพวกเรา จึงขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงโรงเรียนที่เขาจัดงานพอดี พอชาวบ้าน ครูและตร.ที่มารักษาความปลอดภัยในงานเห็นก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ทางครูจึงให้นอนห้องสมุดเป็นการชั่วคราว ฉันทนไม่ได้จริงๆ โดนผัวซึ่งเป็นคนจ.ระยอง มาอยู่ที่บ้าน 4 ปีมีอาชีพกรีดยางที่บ้านโนนวารี อ.ส่องดาว แต่ผัวเสพยาหนัก พอเสพก็คลั่งทำร้ายร่างกาย บางครั้งลูกก็ถูกทำร้ายร่างกายด้วย จึงตัดสินใจหนีออกมาโดยไม่มีจุดหมาย หนูจะไม่กลับไปหาผัวคลั่งยาคนนี้อีกแล้วและคิดว่าตอนนี้เขาคงจะตามหาตนเองและลูกแน่นอน นางวันเพ็ญกล่าวไปร้องไห้ไป

ขณะที่ นายสมชาย อินทะนู ครูโรงเรียนบ้านค้อดอนแคน เปิดเผยว่า เมื่อคืนทางโรงเรียนจัดงานคอนเสริตหาเงินสร้างโดมโรงเรียน ได้รับแจ้งจากหน่วยรักษาความปลอดภัยในงานบอกว่า อาจารย์ให้ไปดูผู้หญิงหน่อยพาลูกชายหนีออกมาแถมร้องไห้ว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย จึงพากันมาสอบถามข้อเท็จจริง วันนี้ทางโรงเรียนก็หาข้าวหาน้ำให้แม่และลูกสองคนนี้ได้รับประทานอย่างอิ่ม จากนั้นได้โทรไปสอบถามกำนันและ ผอ.โรงเรียนที่บ้านท่าวารี อ.ส่องดาวที่เขาไปทำงานกรีดยางปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง ทางโน้นเขาบอกว่าสามีทำร้ายจริงๆ อย่าให้กลับมาเด็ดขาด ทาง ผอ.โรงเรียนจึงอนุญาตให้นอนที่ห้องสมุดโรงเรียนไปก่อน ชาวบ้านและพวกตนเห็นเขาร้องไห้ตั้งแต่เมื่อคืน สงสารมาก ยังไงก็ต้องช่วยกัน เห็นแล้วหดหู่ใจชีวิต คนทั้งคนและยังมีเด็กน้อยอยู่ด้วย โดยวันพรุ่งนี้เราจะหาวิธีช่วยเหลือว่าจะอย่างไรต่อไป เพราะดูแล้วน่าสงสารอย่างมาก
ความคืบหน้าของเรื่องนี้ วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผวจ.สกลนคร และนายวีระ ฤกษ์วณิชย์กุล ปลัดจังหวัดสกลนคร เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าว ซึ่งพอทราบเรื่อง ผวจ.สกลนคร ได้สั่งการให้ ปลัดจังหวัดสกลนคร ประสานงานกับ ว่าที่ รต.รวยรุ่ง ใครบุตร นายอำเภอสว่างแดนดิน พร้อมเจ้าหน้าทีตำรวจ ไปนำตัวสามีคลั่งยารายนี้มาสอบสวนเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ นายสาคร เสียงเพราะ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ รก.พมจ.สกลนคร ก็ได้รับคำสั่งให้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางช่วยเหลือ โดยจะรับตัวเข้ามาคุ้มครองดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัว
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร
Discussion about this post