คนร้ายซุ่มมืดใช้อาวุธปืนยิงหนุ่มวัย 44 ปี ดับคาคอกวัว !! 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุ งว่า เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 25 สิงหาคม 65 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ดุนยนิตย์ ชูเชื้อ รอง.ผกก.สืบสวน สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดี พบศพชายวัย 44 ปี ถูยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณคอกเลี้ยงวัว ในพื้นที่ ม.3 ต.ชุมพล หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พ.ต.ต. จำเริญ อินทร์แก้ว หัวหน้าชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างและคดีสำคัญสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง แพทย์ เวร รพ.ศรีนครินทร์ และอาสาสมัครกู้ภัยพัทลุง ในที่เกิดเหตุ บริเวณภายในคอกวัว ไม่มีเลขที่ ท้องที่ ม.3 ต.ชุมพล เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายสมชาย หอยบาง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.1 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน อาศัยความมือใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงใส่1 นัดกระสุนเข้าแผ่นหลัง และแขนซ้าย รวม 9 จุด ห่างออกไปจากผู้ตาย 7 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบ ของผู้ตายล้มคว่ำ และห่างออกไป เจ้าหน้าที่พบกระดาษหมอนรองกระสุน ตกอยู่ 3 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนางอารีรัตน์ หอยบาง อายุ 38 ปี ภรรยา ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ สามีได้มาเลี้ยงวัวอยู่ที่คอกดังกล่าวตั่งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวาน และช่วงค่ำได้โทร ศัพท์ไปหาว่าจะกลับบ้านตอนไหน สามีตอบว่าอีกไม่นานก็จะกลับ จนกระทั่งเที่ยงคืนสามียังไม่กลับบ้าน ได้โทรไปหาแม่ และญาติที่อยู่ใกล้คอกวัว ว่าไปดูสามีทีว่าทำไมยังไม่กลับ จนกระทั่งพ่อได้ขับรถจักรยานยนต์ไปหาในคอกวัว พบสามีถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว

ซึ่งเบื้องต้นนางอารีรัตน์ ผู้เป็นภรรยา ยอมรับว่าสามียุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเข้าออกเรือนจำมาแล้ว 3-4 ครั้ง ในข้อหา สมคบ และเสพยาเสพติด ล่าสุดเมื่อต้น2564 เพิ่งพ้นโทษออกมา อยู่มาไม่นานสามี เริ่มเสพยาเสพติด และชอบอยู่สันโดษ เลยมาอยู่ที่คอกเลี้ยงวัวไปเช้ากลับบ้านเย็น แต่สามีไม่เคยบอกว่ามีปัญหาอะไรกับใคร หรือมีความขัดแย้งกับใคร จนกระทั่งถูกยิงเสียชีวิต

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดสาเหตุในการฆ่ากันครั้งนี้ น่าจะมาจากความขัดแย้งในธุรกิจผิดกฎหมาย ที่ผู้ตายถือเป็นขาใหญ่ในตำบลชุมพล ทุกคนต่างรู้จัก และปัญหาเรื่องชู้สาว ที่เคยมีปัญหามาก่อนหน้านี้ประมาณ5 เดือน แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ฟันธง ว่าเหตุเกิดจากเรื่องใดกันแน่ ก่อนจะเรียกตัวญาติๆและภรรยาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งหาวัตถุพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ มาประกอบคดีเพื่อติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.