วันที่ 28 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 27 สิงหาคม 2565 เวลา 23:00 น.ร.ต.ท. หญิง มนัสนันท์ บุรีภักดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนครพนมได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนจักรยานยนต์และเสียหลักชนรั้วชาวบ้าน เหตุเกิดที่ถนนในหมู่บ้านบ้านหัวโพน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนมมีผู้ได้รับบาดเจ็บจึงประสานกู้ภัยศรีสัตตนาคราชนครพนมพร้อมรถพยาบาลรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที ที่เกิดเหตุพบ รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน ษธ 5224 สระแก้ว ชนกับรถจักรยานยนต์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กข 4403 นครพนม แล้วลากมาชนกับรั้วของชาวบ้านมีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ 2 คน เป็นวัยรุ่นที่ขับขี่รถจักยานยนต์พร้อมมีดสปาต้ามีดขอด้ามยาวและดาบซามูไร ที่พกติดตัวมาด้วย โดยนาย เอ นามสมมติ ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บขาขวาหักผิดรูปและมีแผลถลอกตามร่างกาย ส่วนนายบี ที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยกันอายุ 16 ปี มีบาดแผลแตกที่คิ้วซ้ายและมีแผลถลอกตามร่างกาย โดยทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม
นอกจากนั้นยังพบนายมลเทียน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128หมู่ 8 ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม รับว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันเกิดเหตุและได้เฉี่ยวชนรถจักร ยานยนต์คันดังกล่าวจริง โดยเล่าว่าก่อนเกิดเหตุน้องชายของตน คือนายซี นามสมมติ หลังจากเลิกงานในเมืองแล้วขณะขับขี่รถจักรยายนต์จะกลับบ้านเมื่อถึงบริวเณโค้งคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ม.นครพนม มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ประมาณยี่สิบคน ขับขี่รถจักร ยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาประมาณ 10 กว่าคัน ขับไล่นายซี พร้อมเงื้อง่ามีดดาบและอาวุธมีดอีกหลายชนิดไล่ทำร้ายนายซี แต่นายซีสามารถขับรถหลบหนีเข้าบ้านมาได้และมาเล่าเหตุการณ์ให้ตนฟัง ตนจึงชวนน้องนั่งรถยนต์กระบะออกมาตามหากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเพื่ออยากทราบว่าเป็นกลุ่มไหน และก็เจอกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวอยู่ปากทางเข้าบ้านหัวโพน เมื่อพบ เห็นนายซีและตน กลุ่มวัยดังกล่าวก็ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามารุมจะทำร้ายอีกทันที ตนจึงขับรถหนีแต่วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวก็ขับรถไล่พร้อมใช้มีดฟันและขว้างระเบิดปิงปองและระเบิดขวดไส่รถตน ตนเห็นจวนตัวจึงขับรถชนจักยานยนต์คันหนึ่งและรถเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาหน้าบ้านและกำแพงบ้านได้รับความเสียหายดังกล่าว
โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบ มีดสปาต้า มีดขอและดาบซามูไร ที่กลุ่มวัยรุ่นใช้ก่อเหตุ พร้อมระเบิดปิงปองที่ประกอบเองตกในที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าได้ยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมอายัดตัวผู้ก่อเหตุเพื่อทำการสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไปโดยคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ตระเวนก่อเหตุลักษณะแบบนี้มาก่อนหน้านี้หลายครั้งล่าสุดก่อเหตุไล่ฟันวัยรุ่นที่ขับขี่จักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณร้านข้าวปุ้นตาหมายตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้วและก็กลับมาก่อเหตุซ้ำอีกโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย.
ความคืบหน้ากรณีวัยรุ่นกว่ายี่สิบคน ขับขี่รถจักรยานยนต์พร้อมอาวุธมีดดาบและระเบิดปิงปองไล่ฟันและขว้างระเบิดใส่รถยนต์กระบะของนายมลเทียน ราศี อายุ 26 ปี และน้องชาย อาชีพรับจ้างส่งของ โดยกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์กว่าสิบคันแต่ละคันมีอาวุธครบครันไล่ฟันและปิดล้อมรถยนต์กระบะให้เข้าในถนนภายในหมู่บ้านหัวโพน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนมหลังจวนตัวนายมลเทียนตัดสินใจ หักรถพุ่งชนรถจักยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น จนได้รับบาดเจ็บขาหักแล้วเสียหลักพุ่งเข้าชนประตูหน้าบ้านของชาวบ้านจนได้รับความเสียหายส่วนแก๊งวัยรุ่นบาดเจ็บขาหักหนีไม่รอดจนมุมในที่เกิดเหตุสองคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
วันที่ 28 ส.ค.65 ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของนางดุลยดา เทียบชัยภูมิ อายุ 49 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 6 บ้านหัวโพน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นคร พนม โดยนางดุลยดา เปิดเผยว่าตนไม่เคยพบไม่เคยเห็นเหตุ การณ์แบบนี้มาก่อนมันเหมือนเหตุการณ์เหมือนในหนัง ตอนแรกได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังมาจากทางด้านทางเข้าหมู่บ้านหลังจากนั้นก็เห็นขบวนรถมอเตอร์ไซด์วิ่งเข้ามาตามด้วยรถยนต์กระบะสีขาว และมีขบวนรถมอเตอร์ไซด์อีกกลุ่มหนึ่งปิดล้อมด้านหลังของรถยนต์กระบะไว้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรรถยนต์กระบะก็พุ่งชนรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งที่มีคนนั่งมาทั้งหมดสามคน จนล้มลงและรถกระบะเสียหลักพุ่งชนเข้ากับประตูเหล็กหน้าบ้านจนพังเสียหายอย่างภาพที่เห็น หลังเกิดเหตุหนึ่งในสามของวัยรุ่นที่มากับรถมอเตอร์ไซด์ไม่ได้รับบาดเจ็บได้ถือโอกาศช่วงชุลมุนหมลหนีไปก่อนที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จะมาถึง ส่วนอีกสองคนได้รับบาดเจ็บขาหัก ไปไหนไม่รอดจนมุมในที่เกิดเหตุ ส่วนความเสียหายเบื้องต้นประเมินไว้ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดสอบปากคำในตอนบ่ายของวันนี้
นายธีรเดช หฤทวรรธน์กุล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านนาทราย เปิดเผยว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ตระเวนก่อเหตุอย่างต่อเนื่องกลุ่มนี้เป็นการรวม ตัวกันของวัยรุ่นตามหมู่บ้านต่าง ๆ หลายหมู่บ้านเช่นบ้านโคกกุง บ้านหนองค้าและบ้านโพธิ์ตาก ซึ่งกลุ่มนี้ชอบเลียนแบบในโลกโซเชี่ยลออกตระเวนก่อเหตุไล่ทำร้ายวัยรุ่นด้วยกัน เมื่อพบเห็นมาตามลำพัง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยหามาตรการกวดขันและติดตามจับกุมมาดัดนิสัยใหม่เนื่องจากล้วนแล้วแต่อายุยังน้อยทั้งนั้น
ด้านพ.ต.อ.ณัฏฐวิทย์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาให้ปากคำแล้ว และหลังจากนั้นก็จะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อรวบตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้แล้ว เนื่องจากเป็นพฤติกรรมการก่อเหตุที่อุกอาจต่อเนื่องไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเยาวชน จากหลายหมู่บ้านมารวมตัวกันก่อเหตุเลียนแบบในโซเชี่ยล ซึ่งจะต้องจับกุมและนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post