ปลัด มท. เยือนอุบลฯ ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ชมเปาะ! “โคก หนอง นา โมเดล” 

วันที่ 31 สิงหาคม 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามการขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ที่ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นายอำเภอทุกอำเภอ และส่วนราชการที่เกี่ยว ข้อง เข้าร่วมการประชุมฯ ณ ห้องประชุมพรหมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี

ในส่วนของกรมการพัฒนาชุมชน นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้ นายสรสาสน์ สีเพ็ง ผู้ตรวจราช การกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการที่ 14 พร้อมทั้ง นายพิสดาร ประดา พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธ ศาสตร์การพัฒนาชุมชน นางกนกอร โพธิ์สิงห์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน รวมถึงนักวิชาการพัฒนาชุมชนและเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมการประชุมฯ

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ ได้กล่าวรายงานผลการขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจสำคัญของจังหวัดอุบล ราชธานี จำนวน 11 ประเด็น ได้ แก่ 1)การขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัช ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดอุบลราชธานี 2)การสำรวจข้อมูลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในหมู่บ้าน รายครัวเรือน ผ่านระบบ Thai QM 3)โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” 4)การบริหารจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัดอุบลราชธานี 5)โครง การบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง และกิจกรรมทางนี้มีผลผู้คนรักกัน 6)การรณรงค์สวมใส่ผ้าไทย “อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” และผ้าไทยใส่ให้สนุก 7)การขับเคลื่อนบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่าง วัด และชุมชน ให้มีความสุขอย่างยั่งยืน จังหวัดอุบล ราชธานี (MOU) 8)การขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs 9)การสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรและการสร้างการรับรู้ด้านประชาสัมพันธ์ 10)สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราช ธานี และ 11)การรับมือสถาน การณ์อุทกภัย

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายการดำเนินงานสำคัญในการปฏิบัติงานว่า “ผู้ปฏิบัติงานหรือข้าราชการ ต้องมีความเชื่อมั่นและมีอุดมการณ์ในการทำงาน จะต้องรู้ว่าตนเองเป็นใคร มีหน้าที่ความรับผิดชอบอะไร ต้องสำนึกว่าตนเป็น “ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “และทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลพสกนิกรของพระองค์ให้มีความสุขอย่างยั่งยืน โดยการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ก็เปรียบเสมือน “นายกรัฐมนตรี” ในพื้นที่ ที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนงานของทุกกระทรวง เพื่อสนองต่อการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างทีมงานในการทำงาน โดยการประสานบูร ณาการกับหน่วยงานทุกกระทรวงและทุกกรมในพื้นที่ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ความร่วมมือของภาคีเครือข่าย 7 ภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย ภาคราชการ นักวิชาการ ผู้นำศาสนา นักธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และสื่อมวลชน ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานหรือการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้อย่างสำเร็จบรรลุผล และมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน”

นอกจากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานให้แก่ข้าราชบริพารในพระองค์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ใจความว่า “ประ เทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” รวมถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่อง “อารยเกษตร เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ เพื่อน้อม นำไปปฏิบัติและใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกตำบล หมู่บ้าน อำเภอ ให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ใจความว่า “โคกหนองนา นอกจากเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ทางด้านเกษตรกรรม แล้วยังเป็นศิลปะ เป็นแบบฝึกหัดที่ดี ในการที่จะรวมเกษตรที่หลากหลายให้มาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ในเวลาเดียวกัน รักษาความหลากหลาย แต่ความหลากหลายนั้นก็เกื้อกูลซึ่งกันและกัน”.