ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างสะพานลอย และแก้ปัญหา ส่วนตำรวจ เตรียมดำเนินคดีคนขับชน หลังเดินเท้า 20 ก.ม.ไปมอบตัว
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (30 ส.ค.65) ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นแฟมิลี่ สีเขียว ทะเบียนอุบลราชธานี ชน ด.ช ปริน ทร บุญมาก อายุ 7 ขวบ เด็กนัก เรียนโรงเรียนบ้านสะกาด อยู่บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 1 ตำบลสะกาด อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ บนถนนสี่เลนหมายเลข 24 สีคิ้ว -เดชอุดม บริเวณแยกบ้านสะกาด ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ขณะกำลังข้ามถนนกลับบ้านหลังเลิกเรียน พร้อมกับเพื่อน รวม 3 คน แต่เพื่อนอีก 2 คนข้ามถนนไปได้ก่อน เหลือเพียง ด.ช ปรินทร บุญมาก คนสุดท้ายที่กำลังข้ามไปได้เพียงเลนเดียวแต่กลับตกใจเห็นรถยนต์คันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนจะวิ่งกลับมาคืน จนถูกชนเข้าอย่างจังจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
ขณะที่เฟชบุ๊คของผู้ใช้รายหนึ่ง ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ซึ่งลบข้อมูลไปแล้ว ได้โพสต์รูปภาพในที่เกิดเหตุและ ระบุข้อความว่า เหตุ .ว40 รถชนเด็กนักเรียนแยกบ้านสะดาด เด็กอายุ 7 ขวบ อาการสาหัส กู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาลสังขะ สาเหตุมาจากขอสามช่า รถสิบล้อ ขอเสร็จจะข้ามถนนมองไม่เห็นกระ บะวิ่งมาชน หมายเหตุ ตอนนี้เสียชีวิตแล้วน่ะครับ ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวด้วยครับ
หลังจากเฟชบุ๊คดังกล่าว โพสต์ภาพและข้อความได้ไม่นานก็เกิดทัวร์ลง มีชาวโซเชี่ยลมาคอมเม้นแสดงความรู้สึกและวิพากย์วิจารณ์ไปต่างๆนานๆ ทั้งตำหนิการโพสต์ที่ใช้ข้อความ ในเชิงตำหนิเด็กน้อยซึ่งเขาเสียชีวิตไปแล้วว่า สาเหตุมาจากขอสามช่ารถสิบล้อ ทั้งที่จริงเด็กไม่ได้ขอสามช่า กำลังข้ามถนน และบางคนก็ด่าทอบุคคลที่โพสต์จนเฟชบุ๊คดังกล่าวต้องลบข้อความและภาพออกไปหลังโพสต์ได้แค่เพียง 4-5 ช.ม.เท่านั้น
นอกจากนี้ ชาวโซเชี่ยล ยังได้คอมเม้นถึงเรื่องของถนนบริเวณดังกล่าว ที่มักเกิดอุบติเหตุบ่อยครั้ง ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไข ช่วยสร้างสะพานลอยให้ทั้งรถจักรยานยนต์และคนข้าม หรือทำอุโมงค์ลอด หรือไม่ก็มีสัญญาณไฟหรือวิธีการป้องกันอื่นๆให้ เพราะเป็นจุดที่เด็กนักเรียนและประชาชนใช้ข้ามถนนไปมาจำนวนมาก อีกทั้งบริเวณยูเทิร์นรถอยู่ไกลเกินไปอีกด้วย เหตุการ์ดังกล่าวได้สร้างความเศร้าสลดให้กับครอบครัวและญาติพี่น้องของเด็กชาย รวมทั้งชาวบ้านและเพื่อนฝูงเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุ จนท. ตำรวจสภ.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ที่แท้จริงต่อไป พร้อมนำตัวคนขับรถกระบะดังกล่าวไปสอบสวนและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วเมื่อวานนี้นั้น
ล่าสุด-วันนี้ (31 ส.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 1 ตำบลสะกาด อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของเด็กชายเคราะห์ร้าย และเป็นสถานที่จัดงานศพ อยู่ห่างจากที่เกิดประมาณ 100 กว่าเมตร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด พบญาติพี่น้องและชาวบ้านเดินทางมาช่วยงานศพอย่างไม่ขาดสาย โดย ด.ช ปรินทร บุญมาก อายุ 7 ขวบ หรือน้องเตชิน อาศัยอยู่กับคุณปู่และคุณยาย ส่วนพ่อและแม่ไปทำงานอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังทราบข่าวได้เดินกลับมาถึงบ้านตอน 3 ทุ่ม ทั้งนี้จะมีพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ย. 65)ที่วัดในหมู่บ้าน
นายทองพูล บุญมาก อายุ 56 ปี ปู่ของเด็กชายเคราะห์ร้าย กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลานชาย 2 คนอยู่กับปู่และย่าพ่อแม่เขาไปทำงานต่างจังหวัด เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก เด็กกำลังจะกลับบ้าน พากันออกมาเอง เพราะวันนั้นมีกิจกรรมกีฬาสี ข่าวที่ออกว่าเด็กขอแตรสามช่ารถสิบล้อ ตนคิดว่าคงไม่ใช่ เด็กมากัน 4-5 คน หลานชายที่เสียชีวิต เขาวิ่งกลับคืนถึงถูกชน ถ้าวิ่งข้ามไปด้วยกันก็คงไม่มีปัญหา ตนยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยแก้ไขปัญหา จะได้ไม่เกิดกับใครอีก ให้ทำสะพานลอยหรืออุโมงค์ข้าม เพราะเด็กนักเรียนและปะชาชนข้ามไปข้ามมาจำนวนมาก ทั้ง โรงเรียน อบต. และโรงพยาบาลสุขภาพตำบล ปกติจะมี อปพร.มาดูเด็กข้ามไปข้ามมาทั้งเช้าและเย็น แต่วันนั้นเป็นวันแข่งขันกีฬา เด็กๆอาจจะหนีกลับบ้านก่อนก็มี ตนคิดว่าเด็กไม่ได้ขอสามช่า ตนก็ไม่ได้เห็น หรือเด็กอาจจะทำตามกันตนก็ไม่ทราบ แต่ตนคิดว่าน้องไม่ได้ขอสามช่า ในคลิปก็ดูได้ แต่น้องเสียไปแล้วก็ไม่สมควรมาซ้ำเติม คุณปู่ของเด็กเคราะห์ร้ายกล่าว
นางน้ำริน นามวงศ์ อายุ 37 ปี แม่ของเด็กชายเคราะห์ร้าย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายคนโตของตนที่เสียชีวิต ตนกับสามีไปขอจากหลวงพ่อโสะร จ.ฉะเชิงเทรา ไม่ถึงปีก็มีลูก ก็ ลูกชายคนนี้ไปขอกับหลวงพ่อโสธรมา วันเกิดลูกชาย ต้องพาไปกราบไหว้หลวงพ่อโสธรทุกๆปี ปีนี้เจอโควิด เลยไม่ได้พาไปไหว้ คิดว่าจะพาไปไหว้ในวันที่ 9 ก.ย.65 นี้ เพราะเป็นวันเกิดเขา แต่น้องก็มาเสียชีวิตเสียก่อน เขาเป็นโรคหัวใจด้วย ทำบอลลูหัวใจครบ 7 ปีปีนี้ สิ้นปีนี้ก็จะเป็นครั้งสุดท้ายที่หมอนัด เพราะจะหายเป็นปกติแล้ว ตนยังทำใจไม่ได้กับเหตุ การณ์เกิดขึ้น แม่ของเด็กชายเคราะห์ร้ายกล่าว
ด้านชาวบ้านที่มาร่วมงานศพ กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำสะพานลอย หรืออุโมงค์ให้เด็กๆข้าม หากเป็นไปได้ก็ทำอุโมงค์ให้รถยนต์และรถ จยย.ลอดได้เลย เพราะยูเทิร์นไกลเกินไปถึง 2 ก.ม. ทำให้รถ จยย.ต้องลัดข้ามถนนไป เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่างมาก และมีประชาชนใช้สัญจรข้ามไปมาจำนวนมาก บริเวณนี้เป็นสายหลัก เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมาก รถวิ่งจะไม่ชะลอความเร็ว เพราะเป็นถนน 4 เลน บางทีรอข้ามนานๆก็มีไฟฟ้าส่องสว่างก็ดับมาหลายปีแล้วไม่มีการซ่อมแซม ตอนกลางคืนมึด มากจุดกังกล่าวเป็นจุดที่อันตรายมาก เป็นถนนสายหลัก ถนนหลวงหมายเลข 24 มีรถวิ่งหนาแน่น เมื่อก่อนเป็นถนน 2 เลน เป็นสี่แยก แต่พอมาทำเป็น 4 เลน ก็ปิดแยก แล้ว ไปทำยูเทิร์นไกล ชาวบ้าน เด็กนักเรียนต้องจำใจข้ามทางจุดดังกล่าว ตามยถากรรม ทั้งโรงเรียน อบต. รพ.สต. ก็ตรงข้าม ชาวบ้านต้องจำใจข้ามจุดดังกล่าวไปมา ที่ผ่านมามีอุบัติเหตุบ่อยมาก เป็นไปได้ก็อยากให้มีการสร้างสะพานลอย หรือ ทำสีแยกไฟแดง พร้อมสัญญาณจาจรให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีปัญหา เคยมีการร้องขอไปแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข
นางพรนิภา ทุ่มบาล อายุ 40 ปี (เสื้อลายสีแดง) แม่ค้าขายก๋วย เตี๋ยว ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อวานช่วงเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงรถสิบล้อบีบแตรจังหวะสามช่าดังมาก น่าจะเห็นเด็กๆกำลังข้ามถนนกัน ส่วนเด็กๆจะขอสามช่าหรือไม่ตนเองไม่ทราบ เพราะมองไม่เห็นไม่ได้สังเหตุ ได้ยินแต่เสียงรถบีบแตร ปกติไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้ ปกติจะเป็นเสียงเคาะบีบแตรธรรมดา แต่วันนี้เสียงดังมาก จากนั้นก็ได้ยินเสียงชนดังโครม ตนคิดวารถชนสุนัข ก่อนจะมองไปเห็นเด็กเสื้อเขียวกลิ้งบนถนนกระเด็นออกไป จากนั้นจึงพากันวิ่งไปดู ระหว่างนั้นรถกระบะก็ตกร่องกลางถนน คนขับรีบเปิดประตูวิ่งออกมาจะไปยกเด็ก แต่มีคนบอกไม่ให้ยก รอกู้ชีพกู้ภัยมาช่วย เพราะกลัวกระดูกหัก บริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างสะพานลอย หรือแก้ปัญหา เพราะให้เกิดความปลอดภัยกับนักเรียนและประชา ชน แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวกล่าว
ด้านพ.ต.ท.กิ่งเพชร สุดเสียงสังข์ สว.สอบสวน สภ.สังขะ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐาน พร้อมนำศพผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ชันสูตรและส่งศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน ส่วนคนขับรถยนต์ปิคอัพ ซึ่งทราบชื่อคือนายธนกิจ ปึงชัยพัฒนา อายุ 49 ปี เป็นชาว อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยหลังเกิดเหตุได้เข้าช่วยที่บ้านงานศพและช่วงเช้าได้เดินเท้าจากที่เกิดเหตุกว่า 20 กิโลเมตร เพื่อมามอบตัวและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ที่ สภ.สังขะ ซึ่งยืนยันหลังจากให้ปากคำแล้วจะเข้าไปช่วยงานศพของเด็กชายที่เสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์คันดังของหลวงพ่อที่วัดแห่งหนึ่งที่เขต อ.น้ำยืน เพื่อมุ่งหน้าไปยังอ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เพื่อนำรถไปซ่อมให้หลวงพ่อ แต่ก็มาเกิดเหตุดังกล่าวก่อน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนเพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อแจ้งข้อหา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมไปถึงเรื่องที่เกิดข้อวิพากวิจารณ์อย่างกว้างขวางในเรื่องของการข้อแตรซิ่งรถสิบล้อหรือไม่อย่างไร และจากการตรวจคนขับไม่พบว่ามีอาการมึนเมาแต่อย่างใด.
Discussion about this post