เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 พ.ต.อ. สมบัติ แสงสว่าง ผกก.สภ.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอนเปิดเผยถึงผลการปฏิบัติงานการจับ กุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนแรง งานต่างด้าวชาวพม่า ว่าเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา เวลาประ มาณ 18.40 น.โดยการอำนวยการของ พ.อ.วรเทพ บุญญะ ผอ. รมน.จังหวัด ม.ส.(ท.), นายอเนก ปันทะยม นายอำเภอปางมะผ้า, พ.ต.อ.สมบัติ แสงสว่าง ผกก.สภ. ปางมะผ้า, พ.ต.ท.ธวัชชัย สุรินทร์ ต๊ะ ผบ.ร้อย ตชด.336, ว่าที่พ.ต.ต.วิชัย ปันนา สว.ตม.จว.แม่ ฮ่องสอน, ร.อ.วิริทธิ์พล สบ.บง. ผบ.ร้อย ร.1742
ได้ทราบข่าวจากสายลับมาว่า จะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จากพื้นที่ อ.ปางมะผ้า ไปยัง จ.เชียงใหม่ โดยใช้เส้นทาง อ.ปางมะผ้า – อ.ปาย จ.แม่ฮ่อง สอน – อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จึงได้มีการวางแผนโดยให้ปลัดอำเภอปางมะผ้า ( ขอสงวนนาม ) ปลอมตัวเข้าไปในขบวนการขนแรงงานต่างด้าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการประสานจากสายลับว่าได้รับการติดต่อว่าจ้างให้ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตม.จว.แม่ฮ่องสอน ทราบ เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเพื่อทำการจับกุม กลุ่มขบวนการดังกล่าวโดยให้สายลับอำพรางตัวรับแรงงานต่างด้าวบริเวณในป่าเขตหมู่บ้านไม้ซางหนาม ม.7 ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้าฯ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามสายลับจากบริเวณสามแยกน้ำของ ม.7 ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้าฯ ไปจนถึงก่อนถึงจุดชมวิวหลุกข้าวหลาม ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้าฯ ประมาณ 3 กม. เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบบุคคลทั้งหมดจำนวน 16 ราย พบว่าบุคคลจำนวนดังกล่าวไม่สามารถแสดงเอกสารประจำตัวบุคคลสัญชาติไทยหรือเอกสารประจำตัวอื่นใดได้ และรับว่าพวกตนเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เดินทางจากเมืองปางโหลง ประเทศเมียนมา ได้ลักลอบเข้ามายังประเทศไทยโดยผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อจะเดินทางเข้าไปทำงานในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยได้จ่ายค่าจ้างเป็นเงินประมาณคนละ 20,000 – 25,000 บาท แก่นายหน้า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมบุคคลต่างด้าว จำนวน 16 ราย โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ”
หลังจากนั้นจึงได้ทำการขยายผลโดยให้เจ้าหน้าที่อำพราง เป็นบุคคลต่างด้าวโดยสารไปกับรถของสายลับ เมื่อไปถึงพื้นที่บ้านแม่หมู ม.8 ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้าฯ ได้มีชายยืน รอรถอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และทราบชื่อภายหลังว่าชายดังกล่าวชื่อ นายทุน ไม่มีชื่อสกุล อายุ 50 ปี อ้างว่าตนถือบัตรประจำตัวบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน บุคคลดังกล่าวยังรับว่า ตนเองทำหน้าที่เป็นผู้เดินนำทางให้กับแรงงานต่างด้าว โดยใช้เส้นทางจากพื้นที่บ้านแม่หมู เพื่อเลี่ยงการผ่านจุดตรวจผามอน ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้าฯ โดยได้มีการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ของตน เอง กับสายลับ ทั้งนี้ นายทุน ฯ ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 500 บาท ต่อต่างด้าว 1 คน และจะได้รับค่าจ้างหลังจากตนได้นำแรงงานต่างด้าวไปส่งยังที่หมายสำเร็จแล้ว โดยการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวทั้งหมด หัวหน้าขบวนการคือ นางทวย ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นผู้มีประวัติเป็นหัวหน้าขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายรายใหญ่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นผู้ว่าจ้างให้ขนต่างด้าวทุกครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้อำพรางตัวเป็นบุคคลต่างด้าว ไปซุ่มตัวบริเวณห่างจากจุดตรวจ ด่านผามอน ประมาณ 500 เมตร ( เส้นทางไป อ.ปาย ) เพื่อไปทำการจับกุมกลุ่มขบวนการอีกทอดหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อ เวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 31 ส.ค. 65 ได้มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ยค 1521 ชลบุรี มาจอดบริเวณจุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงออกจากที่ซ่อนและขอทำกาตรวจค้น จากการตรวจสอบผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ทราบชื่อว่า นายวิชัย ธรรมขึ้น อายุ 42 ปี สัญชาติไทย ที่อยู่ 51/5 ถ.ชำนาญสถิต ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอนฯ และมี นายสาม บุญคำอ่อง อายุ 44 ปี สัญชาติไทย ที่อยู่ 64/5 ม.3 ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอนฯ โดยสารมาข้างคนขับ นายวิชัยฯ รับกับเจ้าหน้าที่ว่าตนและ นายสามฯ ได้รับการติดต่อจาก นางทวยฯ ทางโทรศัพท์ให้มารับบุคคลต่างด้าว โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 500 บาท ต่อต่างด้าว 1 คน เจ้าหน้าที่ได้แสดงภาพถ่ายของ นางทวยฯ ให้ นายวิชัยฯ ดู นายวิชัยฯ รับว่า เป็นบุคคลคนเดียวกับที่ประสานงานกับตนจริง และจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของ นายสามฯ ยังพบว่ามีการติดต่อกับนางทวยฯ เช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา นายวิชัยฯ และ นายสามฯ ทราบ นายวิชัยฯ ให้การเพิ่มเติมตนได้รับการว่าจ้างให้นำบุคคลต่างด้าวไปส่งยังพื้นที่ อ.ปายฯ เจ้าหน้าที่จึงได้อำพรางตัวเป็นบุคคลต่างด้าวเพื่อไปทำการจับกุมกลุ่มขบวนการอีกทอดหนึ่ง แต่ระหว่าง ควบคุมตัว นายวิชัยฯนั้น นางทวยฯ ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถาม นาย
วิชัยฯ ได้แจ้งแก่นางทวยฯ ว่าตนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมแล้วและให้นางทวยฯ หนีไป ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมกลุ่มขบวนการดังกล่าวเพิ่มเติมได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.ปางมะผ้าฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post