
จากกรณี ด.ต.ณรงค์กร สุหร่าย ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม สภ.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้นำหลักฐานคลิปเสียงคนร้าย เป็นชาย โทรศัพท์มาข่มขู่ ตนและภรรยาไปนำตัวนายตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าได้ไปกู้หนี้ออนไลน์ โดยใช้ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ ของ ด.ต.ณรงค์กร เป็นบุคคลที่สามารถติดต่อได้ โดยพูดจาข่มขู่ว่า หากไม่ไปลากคอนายตำรวจคนนั้นมา จะตามฆ่าทั้งครอบครัว ทั้งยังพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามว่าไม่เคยเกรงกลัวตำรวจ จะเอาปืนกรอกปากยิงทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ส่งผลทำให้ตนพร้อมด้วยภรรยาและลูก รู้สึกไม่ปลอด ภัยและเกรงกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และตนก็ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.เจมรัก โสสอน พงส.สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.ย. พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว. ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ. เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท. เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.(สอบสวน) สภ. เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.วุฒิศักดิ์ โภคทรัพย์ สว. หัวหน้า สภ.โพนเขวา ร.ต.อ.เจมรัก โสสอน พงส.สภ. เมืองศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และผู้เกี่ยวข้อง เร่งประชุมหารือเพื่อดำเนินการในเรื่องแก๊งเงินกู้ข่มขู่ยิงกรอกปากตำรวจ และปราบปรามผู้มีอิทธิพล
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ เปิดเผยว่า ตนได้สอบถามเจ้าตัวตำรวจนายที่ถูกคนร้ายอ้างชื่อว่าไปกู้หนี้ออนไลน์แล้ว ได้ให้การยืนยันว่าตนเองถูกแอบอ้างชื่อ ไม่ได้กู้เงินออนไลน์แต่อย่างใด ส่วน ด.ต.ณรงค์กร ก็มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ตามสิทธิของตนเองในฐานะผู้เสียหาย เพื่อเป็นการป้องกันชื่อเสียงส่วนได้เสียของตนเอง ในส่วนของความเสียหายกรณีที่คนร้ายข่มขู่ฆ่าตำรวจนั้น ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งหาข่าว เพื่อให้ได้ข้อมูลของกลุ่มคนร้ายมากที่สุด ซึ่งข้อเท็จจริงก็พบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นแก๊งออน ไลน์ และพบว่าต้นสายที่โทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ โทรมาจากแถบชาย แดนไทย-พม่า อ.แม่สาย จ.เชียง ราย แต่เรายังไม่ทราบว่าบุคคลที่โทรมาเป็นใคร ซึ่งจะได้เร่งติด ตามสอบสวนต่อไป ส่วนบ้านผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายโทรศัพท์ขู่ฆ่ายกครัว นั้น ทาง สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้จัดกำลังตำรวจสายตรวจ เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังเพื่อความปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ตามพิษภัยของแก๊งออน ไลน์ ที่มีการโทรไปข่มขู่หลอกลวงฉ้อโกงทุกวันนี้ ถือว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจเองบางนายก็โดนเช่นกัน ซึ่งเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เป็นนโยบายของรัฐบาล นโยบายของ ผบ.ตร. ผบช.ภ.3 และพล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภ.3 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ในแต่ละวันแต่ละเดือนเราได้รับคำร้องทุกข์เป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งก็สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ แต่การที่จะปราบปราบให้หมดสิ้นไปนั้นก็คงต้องใช้เวลา จึงขอฝากเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ไว้ด้วย.
Discussion about this post