
พระอธิการอัษดิน วิสุทธิจิตโต เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ในห้วงเทศกาลงานประเพณีออกหว่า เทศกาลออกพรรษา (“ต๋ามโคม) ทางวัดศรีบุญเรือง เป็นอีกหนึ่งวัด ที่ได้จัดกิจกรรมภายในวัดเพื่อให้นักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนชาวอำเภอแม่สะเรียง และ อำเภอใกล้เคียงได้สัมผัสกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงธรรมมะ ความงดงามของประทีปโคมไฟสีสันทั่วทั้งลานวัด ได้สัมผัสความงดงามพร้อมทำบุญ โดยมีกิจกรรม ทำ บุญถวายโคม แขวนโคม การปล่อยโคม การทำบุญถวายไฟฟ้า การบูชาประทีป สืบชะตาลอดซุ้มสืบชะตา พรหมน้ำมนต์ ผูกขอมือ ทำบุญสะเดาะเคราะห์ประจำราศรีเกิด เป็นพุทธบูชา ณ.บริเวณ หน้า พระอุโบสถ วัดศรีบุญเรือง
โดยทางวัดศรีบุญเรื่องจะมีการประดับตกแต่งโคมไฟภายในวัดกว่า 2 พันดวง ทั้งนี้มีความเชื่อเกี่ยวกับการถวายโคม การแขวนโคมการจุดประทีป การบูชาไฟ ว่า จะช่วยนำทางสว่างแห่งชีวิตเพื่อให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง มีชีวิตที่ดีงามสดใส ดุจแสงสว่างจากโคม โดยทางวัดจะเปิดให้ประชาชนเข้าสัมผัสความงดงามของพระอุโบสถ ภายในมีภาพพุทธประวัติที่สวยงามตามแบบศิลปะพม่า ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาว เป็นพระพุทธรูปที่ทำจากหยกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยทางวัดจะเปิดให้ร่วมทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล ตั้งแต่วันที่ 1 – 11 ตุลาคม 2565 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
ประเพณีออกหว่า เทศกาลออกพรรษาแม่สะเรียง ประจำปี 2565 มีกำหนดการจัดงาน ในระหว่างวันที่ 9 -11 ตุลาคม 2565 โดยมีวัตถุ ประสงค์เพื่อเผยแพร่ขนบธรรม เนียมประเพณีวัฒนธรรมของอำเภอแม่สะเรียง และส่งเสริมสนับสนุนมรดกทางวัฒนธรรมด้านประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาช้านาน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวอำเภอแม่สะเรียง และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การสนับสนุนสินค้าอาหารการกินพื้นบ้าน สร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ทุกด้านแก่ชาวอำเภอแม่สะเรียง
ขณะที่ นายปกรณ์ จีนาคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวเชิญชวนร่วมงานประเพณียิ่งใหญ่ของชาวไทใหญ่จังหวัดแม่ฮ่อง สอน ในงานปอยเหลิน 11ประจำปี 2565 ซึ่งปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-18 ตุลาคม 2565 โดยในวันที่ 6 ตุลาคม จะมีพิธีเปิดงาน ส่วนวันที่ 8 ตุลาคม จะแห่จองพารา สำหรับวันที่ 11 ตุลา คม เป็นวันตักบาตรเทโวโรหณะ และวันที่ 18 ตุลาคมวันปิดเทศ กาล (ปอยอ่องจ้อด)

ปอยเหลินสิบเอ็ด มีบ่อเกิดประเพ ณีตามแนวพุทธประวัติ ตั้งแต่สมัยพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ดัง พอถึงวันเพ็ญเดือน 11 ชาวไตจึงพากันทำจองเข่งต่างส่างปุ๊ด (ซุ้มประสาท) หรือจองพรารับเสด็จพระพุทธองค์ทุกบ้านเรือนเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ และได้จัดเป็นประเพ ณี “ปอยเหลินสิบเอ็ด” หรือประเพ ณีออกพรรษา ซึ่งประเพณีนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก สำหรับชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน กิจกรรมภายในงาน จะมีงานตลาดนัดขายของกันทั้งวันทั้งคืน ประชาชนจะไปจับจ่ายซื้ออาหารและสิ่งของต่าง ๆ สำหรับไปทำบุญ ที่วัดใน วันขึ้น ๑๕ ค่ำ พอถึงรุ่งเช้าของวันขึ้น ๑๕ ค่ำ จะมีการทำบุญตัก บาตรเทโวโรหนะ จากวัดพระธาตุดอยกองมูซึ่งตั้งอยู่บนดอยกองมู ลงมาสู่วัดม่วยต่อที่อยู่บริเวณเชิงเขาทิวแถวของพระภิกษุสามเณรและประชาชนนับร้อยพัน ซึ่งเรียงรายสองข้างทางเดินลงจากวัดพระธาตุดอยกองมู เพื่อทำบุญตักบาตรแก่พระภิกษุสามเณร
ในช่วงกลางคืนตามบ้านเรือนและวัดวาอารามต่าง ๆ จะมีการจุดประ ทีปโคมไฟสว่างไสว และมีการแห่ “จองพารา” หรือ ซุ้มประสาทรับเสด็จพระพุทธเจ้า ซึ่งตกแต่งประ ดับประดาอย่างสวยงาม นอกจากนี้ในปอยเหลินสิบเอ็ดยังมีการแสดงการละเล่นพื้นเมืองและมหร สพต่าง ๆ เป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการจัดตลาดแสงเทียน หรือตลาดย้อนยุค ( กาดพีด ) ย้อนบรรยากาศมีการจำ หน่ายอาหารท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ชุมชน นอกจากนี้ มีการแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ ด้วย.
Discussion about this post