วันที่ 9 กันยายน 2565 นายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เผยการประชุมวิชาการเวทีท้องถิ่นไทยครั้งที่ 8 ในหัวข้อ “เมืองเปลี่ยน ประเทศเปลี่ยน” ที่วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า กรุงเทพฯ ว่า ได้รับเชิญจากสถาบันพระปกเกล้า เป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง นวัตกรรมท้องถิ่น พร้อมจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยี ให้ผู้บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นต้นแบบหรือโมเดลนำร่อง ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้บริการประชาชน เพื่อยกระดับเป็นเมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ทซิตี้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยมาเยี่ยมชมศูนย์บริการประชาชนแบบครบวงจร หรือวันสต๊อปเซอร์วิส ที่เทศบาล เมื่อไม่นานมานี้
“เวทีดังกล่าว ศ.วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ได้แสดงวิสัยทัศน์ เพื่อเปิดมุมมองให้ผู้บริหารท้องถิ่นผ่านเวทีดังกล่าว ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 76 แห่ง เทศบาลนคร 30 แห่งเทศบาลเมือง 195 แห่ง เทศบาลตำบล 2,470 แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อีก 5,300 แห่ง รวมกว่า 8,000 แห่ง เพื่อให้คิดนอกกรอบ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาบริการและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อตอบสนองหรือตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะการทำฐานข้อมูลระดับตำบล อำเภอ จังหวัด ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สวัสดิการรัฐ และแก้ปัญหาความยากจน โดยตั้งเป้าหมายให้ผู้บริหารขับเคลื่อน และผลักดันการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพื่อเปลี่ยนประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตยแท้จริง” นายธนวัฒน์ กล่าว
นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้สิงคโปร์ ได้ให้ความสำคัญท้องถิ่นมาก เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ ดังนั้นท้องถิ่นต้องสนับสนุนพรรคการเมืองที่มีนโยบายส่งเสริมประชาธิปไตยและกระจายอำนาจ ผ่านการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า โดยไปบอกประชาชนเทคะแนนเสียงให้ พร้อมสนับสนุนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นำร่อง 4 ภูมิภาค อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต เพื่อพิสูจน์ว่าการกระจายอำนาจประสบความสำเร็จหรือไม่ ที่สำคัญต้องผลักดันงบประมาณที่เป็นภาษีประชาชน กลับคืนท้องถิ่น 70 % ไม่ใช่ 30 %โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้บริหารจัดการดังกล่าวไม่ใช่ทำตามคำสั่ง หรือตัวหนังสือที่เป็นกฎหมาย หรือยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีเท่านั้น เพราะไม่เกิดการพัฒนา ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากนักแต่เป็นอันตรายต่อประเทศมากกว่า
นอกจากนี้ท้องถิ่น ยังเรียกร้องไปยังกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น (สถ.) ให้คืนอำนาจงานบริหารบุคคล กลับมายังจังหวัดเหมือนเดิม เพื่อบรรจุ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและพนักงาน ไม่ใช่ไปสอบบรรจุ หรือแต่งตั้งที่ส่วนกลางเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาการฟ้องร้องดังกล่าว มีอยู่กว่าหลายร้อยเรื่องทั่วประเทศ และสร้างความเป็นธรรมแก่ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ด้วย
/////////////////
Discussion about this post