จากกรณีชาวบ้านโพสต์ลง เฟสบุ๊ค เตือนภัยอย่าหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อพระหลอกที่หลอกยืมเงินชาวบ้านแล้วหนีหายไปจากวัด ติดต่อไม่ได้ จากการสอบถามนางจุฑาทิพย์ น้อมเศียร อายุ 44 ปี 233/หมู่ 8 ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนา ลัย จ.สุโขทัย ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองเห็นพระสงฆ์รูปนี้มาจำอยู่ที่วัดบ้านแม่ท่าแพ ตำบลบ้านแก่ง อำเภอศรีสัชนาลัย เมื่อเดือนมิถุนายน ส่วนตัวตนเองเป็นคนที่ชอบทำบุญก็ได้เห็นพระรูปนี้มีบุคลิกน่านับถือ ช่วยงานวัดตลอดไม่มีทีท่าว่าจะทำเสื่อมเสีย ในช่วงเช้าพระรูปนี้จะออกบิณฑบาตโปรดโยมทุกเช้า จนมาระยะหลังพระรูปนี้ขอยืมเงินตนเองอ้างว่าแม่ ป่วย เข้าโรงพยาบาล จะขอยืมเงินไปใช้ในการรักษา แล้วก็ส่งภาพ ถ่ายงานศพมาให้ดูว่าแม่เสียแล้ว จะขอยืมเงินตนเองอีก10,000บาทเนื่องจากคนมางานศพแม่เยอะมาก โดยอ้างว่าจะโอคืนให้30,000 บาท นางจุฑาทิพย์ ฯยังกล่าวต่อยังมีอีกหลายรายที่ถูกพระรูปนี้หลอกเอาเงินโดยใช้วิธีการคล้ายกันบางรายยอดเงินที่ยืม30,000 บาท โดยรวมยอดเงินทั้งหมดเกือบแสนบาท เสียแรงเสียดายข้าวสุกที่ใส่บาตรให้กิน ไม่น่าทำแบบนี้เลย และ อยากฝากเตือนไว้ว่าอย่าหลงเชื่อพระรูปนี้โดยเด็ด
ขาด นางจุฑาทิพย์ กล่าว
ทางด้านพระชลชัย กิติภัทโธ รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านแม่ท่าแพ หมู่ 8 ตำบลบ้านแก่ง อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า พระบุญทวี พรมเลิศ ได้มาขออาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้ในช่วงเดือนกรกฎาคม บอกว่าที่วัดนี้เงียบสงบน่าอยู่ ตนจึงให้อยู่ ระยะแรกปฎิบัติตนดีอยู่ในศิลธรรมมาระยะหลังตนเองได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพระบุญทวีมาขอ ยืมเงินอ้างว่าญาติป่วย ไม่มีเงิน และขอยืมเงินหลายต่อหลายคนโดยอ้างญาติป่วยบ้าง แม่เสียบ้าง ล่าสุดก่อนจะหนีไปอ้างว่า ย่าที่บ้านเกิดป่วยต้องตัดขาจะต้องไปเซ็นต์ให้จะขอยืมเงินตนเองแต่ตนเองทราบจากโยมมาแล้วว่าแกยืมเงินคนอื่นไปทั่ว ตนจึงไม่ให้ พระชลชัย กิติภัทโธ กล่าว.
ธนกฤต ท้าวบุญยืน/สุโขทัย
Discussion about this post