วันที่ 13 ก.ย.65 พ.ต.ท.พันธ์ฐิติ ศิริมูล สว.(สอบ สวน) สภ.แกลง ระยอง ได้รับแจ้ง พบศพผู้หญิงเสียชีวิตอยู่ภายในสระน้ำร้อยไร่ หนองแหวน ริม ถ.บายพาส ม.1 ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.แกลง พร้อมด้วยกู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์ เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ พบชาวบ้านกำลังยืนออกันอยู่ริมสระน้ำ เข้าไปตรวจสอบ พบศพผู้หญิงใส่เสื้อเหลืองลอยคว่ำหน้าอยู่ในน้ำห่างจากฝั่งประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำศพขึ้นมาจากน้ำ เป็นผู้หญิงผมยาว ใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองลายเส้นสีแดง ใส่กางเกงขาสั้นสีเทา และ มีกางเกงชั้นในสีเทาที่สวมขาข้างขวาข้างเดียวทับกางเกงขาสั้น มาอยู่ตรงเอว โดยใส่กำไลที่ข้อมือขวา สภาพศพมีเลือดออกที่ปาก บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำคล้ายถูกเชือกรัดอยู่รอบคอ มีรอยสัก ที่แขนขวาเป็นภาษาอังกฤษ”TIM BIW” และ รอยสักรูปดาวที่เหนือตาตุ่มขาซ้าย คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า3วัน ก่อนจะนำศพส่งชันสูตร ที่ รพ.แกลง
จากการสอบถามผู้ที่พบศพคนแรก ซึ่งเป็นคนหาปลา ได้ให้การว่า ขณะที่ออกมาหาปลาในสระร้อยไร่ กำลังเดินดูจุดอยู่รอบสระ ก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะมองเห็นศพลอยอยู่ จึงรีบไปบอกคนในหมู่บ้านมาดู ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ สำหรับพื้นที่สระร้อยไร่ๆ เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ และ อยู่ห่างจากบ้านเรือนประชาชน มีหญ้าขึ้นรกครึ้ม หากไม่มีคนมาหาปลาก็จะไม่มีเข้ามาในบริเวณนี้ ส่วนผู้เสียชีวิตชาวบ้านในพื้นที่มาดูแล้ว ต่างก็ไม่เคยรู้จัก ไม่ใช่คนในพื้นที่ื อาจจะเป็นคนในพื้นที่อื่นที่ถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาทิ้งในวนสระน้ำแห่งนี้ เพราะเป็นสถานที่เปลี่ยว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่าอาจจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้ในสระน้ำ หรือ อาจจะเป็นประเด็นอื่นซึ่ง คงจะต้องรอผลแพทย์ก่อนจึงจะสรุปได้ชัดเจน โดยเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหนเตรียมหาเบาะแส และ ร่องรอยหลักฐานในจุดเกิดเหตุ รวมถึงประสานโรงพักใกล้เคียง ว่ามีการแจ้งความคนหายหรือไม่ ส่วนใครที่มีญาติหายตัวไป หรือต้องการตรวจสอบ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สภ.แกลง ระยอง
เมื่อเวลา 12.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.ประติพัฒน์ ภูมิลี ผกก.สภ. แกลง ระยอง ได้ กล่าวว่า จากการสืบสวน ทราบแล้วว่าผู้เสียชีวิต คือ น.ส.กฤษณา แสงอรุณ อายุ 19 ปี (เป็นคนในพื้นที่อ.แกลง ) ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่บ้านเช่า ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ห่างจากจุดพบศพ ประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่กับครอบครัวของ นายพีรพงษ์ เพียขันทา อายุ 22 ปี สามี ซึ่งเจ้าหน้า ที่ตำรวจได้นำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายพีระพงษ์ ให้การว่า ตนเองกับผู้เสียชีวิต เป็นสามีภรรยากัน อยู่กินกันมาประ มาณ 2 ปี ปัจจุบันกำลังตั้งท้อง อยู่ 4-5 เดือน โดยตนเองได้เดินทางไปทำงานที่ภาคใต้ เพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมื่อช่วงเช้าของวันนี้พร้อมกับพี่ชาย และ เพิ่งมาทราบว่าภรรยาเสียชีวิต หลังจากที่พบศพแล้ว ขณะที่ตนเองไปทำงานที่ภาคใต้ ผู้ตายอาศัยอยู่กับมารดาของตนเอง โดยที่ไม่ได้ทำงาน ผู้ตายมักจะออกไปนอนค้างที่บ้านเพื่อนเป็นประจำ แล้วจะกลับมาตอนกลางวัน โดยล่าสุดตนเองเพิ่งคุยวีดีโอคอลกับผู้ตายเมื่อคืนวันที่ 12 ที่ผ่านมา โดยไม่มีลางบอกเหตุเลย และ ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร เสียใจมากเพราะเท่ากับสูญเสียไปทีเดียวทั้งแม่ทั้งลูกเลย
นายพีระพงษ์ ให้การต่อว่า จากการสอบถามเพื่อน ทราบว่า เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ ได้มีคนเขมรที่อาจเป็นเพื่อนของผู้ตาย มารับตัวผู้ตายไป จากหมู่บ้านอรรถพร ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ก่อนจะมาพบเป็นศพ โดยยังไม่ทราบว่าฆ่าภรรยาของตนเองทำไม สำหรับผู้เสียชีวิต เคยทำงานที่ร้านคาราโอเกะ แต่ได้หยุดทำมาหลังจากมาแต่งงานกับตนเอง
ด้าน พ.ต.อ.ประติพัฒน์ ภูมิลี ผกก.สภ.แกลง ระยอง ได้กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และ รวบรวมพยานหลักฐาน โดยเบื้องต้นได้เรียกสามีผู้เสียชีวิตมาสอบสวน โดยให้การว่าเพิ่มกลับมาจากภาคใต้วันนี้กับพี่ชาย ซึ่งก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน จึงยังไม่ฟันธง ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนจึงจะสรุปอีกครั้ง รวมถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาเบาะแส รวมถึงตรวจสอบกบ้องวงจรปิดพื้นที่เกิดเหตุ ต่อมาด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจ.ระยอง ได้เดินทางไปตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหลักฐานและร่องรอยของการเกิดเหตุ
คดีอาชญากรรมอีกราย เมื่อเวลา 08.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.ธีรพงศ์ หลอดทองหลาง รอง สว.(สอบสวน)สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้รับแจ้งจากนายเจนฐาวิทย์ ธาราภิบาล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/5 ม.4 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้ามางัดบ้านพักเลขที่ 634/27 ม.5 ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด ซึ่งคนร้ายได้ยกตู้เชฟในตู้เชฟมีพระเครื่องเกจิอาจารย์ดังจำนวนมากมูลค่ากว่าหลายล้านบาท
นายเจนฐาวิทย์ เจ้าของบ้านผู้เสียหาย กล่าวว่าตนเองอดีตมีอาชีพวิศวกรทำเครื่องแก้วอยู่จ.สมุทร ปราการ ปัจจุบันได้ลาออกและมาทำธุรกิจส่วนตัว ได้เดินทางกลับไปพักที่บ้านพักที่กรุงเทพฯในคืนเกิดเหตุ คาดว่ากลางดึกคนร้ายหลายคนได้เข้ามาใช้ของแข็งงัดประตูหน้าบ้านเข้ามาแล้วดันกล้องวงจรปิดในบ้านแล้วปิดเบรกเกอร์ไฟเพื่อตัดไฟ จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปในห้องนอนรื้อค้นทรัพย์สิน จนข้าวของในห้องกระจัดกระจาย และคนร้ายยังยกตู้เชฟที่มีน้ำหนักมากซึ่งภายในตู้เชฟมีพระเครื่องเกจิอาจารย์ดังที่ตนเองสะสมไว้เป็นจำนวนมากตีเป็นค่าเงินก็หลายล้านบาท แล้วยกออกไปทางประตูหลังบ้าน และยังมีกระเป๋าเอกสารของตนเองถูกทิ้งไว้ในสวนข้างบ้าน จึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวเสริมอีกว่าที่ผ่านมาในพื้นที่สภ.ปลวกแดง ได้มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์หลายคดี และยังก่อเหตุงัดบ้านวิศวกรยกตู้เชพมูลค่าหลายล้านบาท ซึ่งจนท. ตำรวจปลวกแดงยังไม่สามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้ จึงฝาก พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.ระยอง สั่งการขันน็อตตร.ปลวกแดง ก่อนที่ท่านจะโยกย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ให้กวาด ล้างจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก.
Discussion about this post