ประจวบฯ สัญญาณดี 7 เดือนมี นทท. 5 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 17,400 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.65 นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือ กรอ.จังหวัดฯ ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดฯ มีหัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมประชุม มีการรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวของ จ.ประจวบฯ ในรอบ 7 เดือนแรกของปีนี้ คือตั้งแต่เดือน ม.ค.- ก.ค.65 มีสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางมาในพื้นที่ จ.ประจวบฯ จำนวนกว่า 5.1 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 5 ล้านคนเศษ และนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40,000 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 17,442 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 17,000 ล้านบาท และชาวต่างชาติกว่า 400 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดได้ร่วมมือกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทำให้สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง

ในส่วนของความก้าวหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน นายอภิสิทธิ์ อุบลโกมุท ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหัวหิน รายงานว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานหัวหินได้รับการจัดสรรงบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงพัฒนาท่าอากาศยานให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายความกว้างของทางวิ่งหรือรันเวย์จาก 35 เมตรเป็น 45 เมตร ซึ่งในระหว่างดำเนินการอยู่นี้ไม่ได้กระทบต่อการทำการบินในประ เทศแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการสร้างรั้วกั้นรอบท่าอากาศยาน การทำระบบจ่ายน้ำให้กับรถดับเพลิงในพื้นที่ ส่วนโครงการขยายอุโมงค์รถยนต์ รถไฟ ให้ได้ 60 เมตรตามมาตร ฐาน ปัจจุบันได้รับงบประมาณแล้ว คาดว่าจะทำสัญญากับผู้รับจ้างได้ในปี 2566 ซึ่งหากโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จ ท่าอากาศยานหัวหินจะมีศักยภาพในการรองรับการบินระหว่างประเทศได้ โดยขณะนี้มีสายการบินหลายรายแสดงความสนใจที่จะมาเปิดเส้นทางบิน

ด้าน นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ราย งานความก้าวหน้าการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบบริเวณอาคารโดมจำหน่ายสินค้าด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้ได้มีการจัดทำแบบสำรวจรายการอาคาร/สิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุแจ้งไปยังกรมธนารักษ์เรียบร้อยแล้ว เพื่อขอขึ้นทะเบียนทรัพย์สินกับกรมธนารักษ์ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จะจัดทำบันทึกข้อตกลงส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าวให้ อบต.คลองวาฬ รับผิดชอบต่อไป.