เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 27 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่ ศร.ชล.จว.ระยอง และ นักประดาน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศล สามารถช่วยลูกเรือประมง ของเรือประมง อ.แสงประทีป9 ที่ได้อับปางลงกลางทะเลระยอง บริเวณ แบริ่ง200 ระยะห่างจากฝั่งบ้านเพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยองประมาณ 7 ไมล์ทะเล ใกล้กับเกาะจันทร์ หลังได้รับแจ้งจากเจ้าของเรือเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 26 ก.ย.65 ว่าเกิดเหตุเรือประมงล่ม จึงแล่นเรือออกไปช่วยเหลือ พร้อมกับ ประสานเรือประมงที่อยู่ใกล้เคียงจุดที่เรือจมร่วมช่วยเหลือ
โดยเจ้าหน้าที่แล่นเรือฝ่าคลื่นลมที่รุนแรงออกไปถึงจุดตามที่ได้รับแจ้ง โดย พบ ลูกเรือประมงที่ประ สบภัย ทั้งหมด 7 คน ทางเรือประ มงได้ช่วยขึ้นมาได้แล้ว โดยที่ทุกคนต่างมีอาการอ่อนแรง เพราะลอยคออยู่นาน ก่อนจะพาลูกเรือประมงทั้ง7 คน ซึ่งเป็นคนสัญชาติพม่า 6 คน สัญชาติเวียดนาม 1 คน ประกอบด้วย 1นายนาย อายุ 35 ชาวเวียดนาม 2.นายเฮง ซูอู อายุ 30 ปี 3.นาย นานวิน อายุ 40 ปี 4.นาย วินนายทุน อายุ 35 ปี 5.นาย แยซิมอู อายุ 30 ปี 6.นาย คิมโซ อายุ 30 ปี 7.นาย ซู อายุ 30 ปี ส่วนนายอรุณศักดิ์ เชื้อคนมั่น อายุ 56 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.นคร พนม ได้สูญหายไปยังไม่พบร่างคาดว่าจมน้ำเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมการค้นหาต่อไป ก่อนจะรีบนำลูกเรือกลับเข้าฝั่ง แล้วนำตัวทั้งหมดส่ง รพ.ระยอง ล่าสุดลูกเรือทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว
ด้านนาย นานวิน หนึ่งในลูกเรือที่รอดชีวิต ได้เล่านาทีระทึกว่า ก่อนที่เรือจะล่ม เป็นช่วงที่มีอากาศแปร ปรวนคลื่นลมแรง จู่ๆก็มีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้ามาที่เรืออย่างรุนแรง เกลียวคลื่นได้ม้วนเอาตัวเรือพลิกและล่มในทันที ทุกคนในเรือพยายามว่ายน้ำเอาตัวรอด ส่วนไต๊ก๋งคงตะหนีออกจากเรือไม่ทัน เลยจมหายไปพร้อมกับเรือ หลังจากนั้นทั้ง7คนก็พยายามลอยคอ ท่ามกลางคลื่นที่รุนแรง คิดว่าไม่รอดแล้ว พอเห็นเรือมาช่วยก็ดีใจมาก ขอบคุณทุกคนที่ช่วยชีวิตไว้
ด้านนางกิตติมา ธรรมนพเดชา อายุ 56 ปี เจ้าของเรือ ได้เปิดเผยว่า เรือประมงที่อับปาง เป็นเรือประมงขนาด 7 วา มีลูกเรือรวมไต๊ก๋ง 8 คน ซึ่งขณะนี้ได้ประสานเรือประมงในพื้นที่ ออกไปช่วยค้นหาไต๊ก๋งเรือ
ต่อมาเวลา 05.30 น.วันเดียวกัน นายอาทิตย์ ชุติดาราลักษณ์ หัวหน้ากู้ภัยสว่างพรจุดบ้านเพ ได้กล่าวว่า ทางเจ้าของเรือได้ประ สานขอกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯออกไปช่วยค้นหาไต๊ก๋งเรือที่ยังสูญ หาย โดยทางเจ้าของเรือได้ประ สานผู้เชี่ยวชาญในการดำน้ำ มาช่วยค้นหา.
ต่อมาเช้าวันที่ 27 ก.ย. 65 หน่วยทัพเรือ ภาคที่ 1 ศรชล และหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวประมงนำเรือประมง 17 ลำ ออกค้นหาร่างผู้สูญหายอย่างยากลำบาก เนื่อง จากกระแสน้ำไหลเชี่ยว และเจอฝนตกในช่วงเช้า ตอนนี้ยังไม่มีรายงานพบร่างผู้สูญหาย จึงทำ การกู้เรือที่ประสบเหตุลากเข้าฝั่งในขณะนี้
ล่าสุด เวลา 14.00 น. นางสาวตุ่ม น้องสาวเจ้าของเรือ (เสื้อเหลือง) ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าวาน (วันที่ 26 ก.ย) มีเรือทั้งหมด 3 ลำที่ออกไปด้วยกัน หนึ่งในนั้นเป็นเรือของพี่สาวคือเรือที่ล่ม ซึ่งแต่ละลำจะทิ้งระยะห่างประมาณ 4 ไมล์ทะเล ซึ่งถ้ามองด้วยตาก็ไม่สามารถจะมองเห็นกันอยู่แล้ว จนมาประมาณ 6 โมงเช้า เรือลำที่ล่มนั้น ได้ขาดการติดต่อไป จนเจ้าของเรือ ได้รับแจ้งว่าสัญญาณเรือขาดหายไป และพบอุปกรณ์เรือลอยอยู่บริเวณจุดที่เรือของพี่สาวอยู่ ณ ขณะนั้นพอดี บวกกับ ของที่ลอยอยู่เป็นลังสีเขียวซึ่งก็จึงแน่ใจว่าเป็นเรือของพี่สาวแน่ เพราะเป็นลังปลาที่ใช้ประจำ
จากคำบอกเล่าของลูกเรือ ได้เล่าให้ตนฟังว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้น เหมือนมีลมมาปะทะกับเรืออย่างแรง ทำให้เรือเอียง ล่มไปในเวลาเพียงไม่ถึง 5 นาที พอเรือเอียงล้มไปก็เหมือนกับมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเรืออีกที ซึ่งในขณะนั้นลูกเรือ กำลังวางอวนและอยู่ตรงช่วงท้ายเรือพอดี จึงหลุดออกจากตัวเรือ ขณะนั้นเรือยังไม่จมไปทั้งลำ ขระที่ลูกเรือหลุดจากตัวเรือก็รีบว่ายน้ำไปที่หัวเรือซึ่งยังไม่จม ในขณะที่หัวเรือตั้งอยู่ ลูกเรือทั้งหมดที่เกาะหัวเรืออยู่ขณะที่กำลังจะจม ก็เห็นกองอวน และลูกลอย จึงรีบเอาชีวิตรอดโดยการ ช่วยกันแก้ลูกลอยกับอวน มาทำเป็นแพ เพื่อลอยคอ เอาชีวิตรอดกลางทะเล อยู่ 4 ชั่วโมง จนกว่าเรืออีกลำจะเข้ามาช่วยไว้ได้
และล่าสุดทางทีมค้นหา ดำลงไปหาภายในเก๋งเรือ แล้ว แต่ไม่พบผู้สูญหาย ตนก็ยังมีความหวัง ว่าไต๋เรือจะได้หลุดออกไปจากเรือแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ ขอให้มีคนช่วยไว้ได้ แต่แค่ยังติดต่อไม่ได้ จึงยังเป็นความหวังอยู่ในตอนนี้.
Discussion about this post