จากกรณี (น้องโบ) อายุ 20 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ว่า ในขณะยืนรอแฟนอยู่ที่ปากทางเข้าสวนยางพารา นายเสมียน ลือชา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 ม.5 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขับรถจักรยานยนต์พ่วงมา หลอกว่าจะขับรถพาไปส่งหาแม่ให้ แต่กับถูกพาไปข่มขืนในเล้าไก่ข้างทางกับพวกผู้ต้องหาอีก 1 คน นั้น จากนั้นตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุส่งฟ้องศาลแล้ว
วันนี้ (28 ก.ย. 65) ดร.เกณิกา อุ่นจิตร์ (ผึ้ง) เจ้าของเพจ “พลังผึ้ง” ได้รับการร้องเรียนในคดีดังกล่าว ได้เดินทางลงพื้นที่ พร้อมเข้าพบ พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.กบินทร์บุรี พ.ต.ท.สุชาติ แย้มศักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี เพื่อสอบถามในเรื่องคดีที่เกิดเหตุ ก่อนมีการมีการพูดคุยกับน.ส.โบ (ผู้เสียหาย)
หลังจากสอบถามและพูดคุยแล้ว น.ส.โบ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจมาก ไม่มีปัญหากับเจ้าหน้าที่ ดีใจมาก คนที่เจ้าหน้าที่นำตัวมาก็คือคนที่กระทำกับเรา จำได้ ใช่ค่ะ เพราะเขาบอกว่าแอบชอบหนูมานานแล้วเขาจ้องมานานแล้ว ทีแรกเอารถพ่วงข้างแล้วตีโค้งกลับแล้วเอารถเครื่องอีกคันเปลี่ยน รถซาเล้ง สีขาว ตอนส่งเราใช้รถพ่วงแล้วโทรหาเพื่อนให้ไปสลับรถกันหน่อย คนส่งที่บ้านแม่เป็นรถไม่มีพ่วงข้าง อีกคนหนึ่งจำไม่ค่อยได้เพราะเขาปิดหน้าปิดตา ปิดโม่งด้วย รูปร่างเหมือนใหญ่ สูง หนูไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน หนูขับรถผ่านประจำกับแฟนไปซื้อของ หลังเกิดเหตุมีข่มขู่อยู่ 2 วัน คนร้ายที่ข่มขืนเขาขับรถมาดูว่าจะแจ้งความหรือไม่ได้แจ้ง เขาบอกว่าถ้าแจ้งความเขาจะฆ่าทิ้งเขาบอกว่าออกจากคุกระวังตัวให้ดีนะ ครอบครัวมึงนะระวัง
ดร. เกณิกา อุ่นจิตร์ (ผึ้ง) เจ้าของเพจพลังผึ้ง เดินทางมาติดตามช่วยเหลือคดี กล่าวว่า วันนี้มาติดตามคดีให้น้องเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ได้ประสานทาง ผบก.และผกก. ก็ได้รับข้อมูลว่า ดำเนินการขอเวลาอีกนิดหนึ่ง ขอให้หลักฐานชัดเจนกว่านี้นิดหนึ่ง เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รับรองไม่มีระบบเส้นสาย รับรองให้ความเป็นธรรมกับน้องแน่นอน ผู้ต้องหาได้อยู่ในเรือนจำแล้ว แต่เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ถ้ารอให้ชัดเจนอีกนิดหนึ่ง เขาก็สามารถตั้งข้อหา ตอนนี้ข้อหาก็มีอยู่แล้ว ขอหลักฐานอีกนิดหนึ่งก็ชัดเจน ขั้นตอนต่อไปได้มีการติดตามและคอนแทคน้องเพื่อความสบายใจของน้องว่าเราไม่ได้ทิ้งไปไหน หากน้องติดขัดเราก็ยินดีลงมาช่วยเหลือด้วยตนเองและจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
นายประยูร ลือชา อายุ 65 ปี (พี่ชายนายเสมียน ผู้ก่อเหตุ) กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุผมก็อยู่บ้าน กินเหล้ากันอยู่ 4 คน ผม ติ่ง ตู้ และเสมียน กินตั้งแต่ช่วงบ่าย 3 โมง ถึงประมาณ 1 ทุ่ม กว่า ผมจึงได้แยกย้ายไป ทางผู้หญิงให้การกับตำรวจว่า เหตุการณ์เกิดประมาณ 6 โมง ถึง 1 ทุ่ม อันนี้ไม่ใช่แล้วครับ ผมยืนยันได้ว่าไม่ใช่ และอีกอย่างรถพ่วงสีขาว แต่รถพ่วงที่บ้านขี่ไม่ได้เป็นสีแดง ส่วนผมของน้องชายก็เป็นปกติ เหมือนเดิม ไม่ได้ไปตัด เมื่อก่อนเขาก็เคยถูกดำเนินคดีเรื่องผู้หญิง ถูกจำคุกมา แต่นานมากว่า 10 ปี แล้ว ตอนนี้ก็ผิดใจกันที่เขาไปถมที่ไหล่ทาง เจ้านั้นเขาหวงเขาไม่ให้ถมดินเขาผิดใจกัน แต่จ้านี้เอาข้าวไปยาย(หว่าน) เจ้านั้นก็บอกว่า เออ ยายซะ และก็เตรียมติดคุก ทำไมเขารู้ว่า น้องชายทำผิด ถ้ามันไม่ใส่ความกัน ผมยืนยันว่าไม่ได้เป็นความจริง เพราะผมอยู่นั่น เหตุการณ์มันเกิดตั้งแต่ 6 โมงถึง1 ทุ่ม ไม่ใช่แล้ว ผมก็อยู่นั่นกินเบียร์หมด 2 ขวด พวกนั้นกินเหล้าขาว พอผมกินเบียร์หมด 2 ขวดผมก็กลับบ้าน เกือบ 2 ทุ่มแล้ว เหตุที่บอกก็ไม่ใช่แล้ว ดูแต่รถก็บอกว่ารถพ่วงสีขาว ของเราสีแดง ยางรั่ว ไม่ได้ใช้นานแล้ว รถพ่วงสีขาวของใครก็ไม่รู้
Discussion about this post