เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีรับมอบการถ่ายโอนสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า การรับมอบสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านในวันนี้ สืบเนื่องจาก คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ประกาศหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่มีความพร้อมและผ่านการประเมินตามเกณฑ์ของคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง จำนวน 49 จังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลให้มี รพ.สต. ถ่ายโอนมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งสิ้นจำนวน 3,384 แห่ง ซึ่งมีบุคลากรทั้งที่เป็นข้าราชการ และพนักงานกระทรวงสาธารณสุขถ่ายโอนมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 22,265 คน ประการสำคัญ ในการรับมอบภารกิจครั้งนี้ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยราชการที่เป็นหน่วยงานหลักในการให้บริการสาธารณะกับประชาชน ประกอบกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีความพร้อมในการรองรับการถ่ายโอนภารกิจฯ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นด้านการกระจายอำนาจในการถ่ายโอนภารกิจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อีกทั้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้บุคลากรผู้ปฏิบัติราชการด้านการสาธารณสุข และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
ด้านนายนพรัตน์ ถาวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ในส่วนของจังหวัดน่าน มีสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่ถ่ายโอนมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน จำนวน 95 แห่ง ซึ่งมีบุคลากรที่เป็นข้าราชการ จำนวน 341 ราย ลูกจ้างประจำ จำนวน 5 ราย พนักงานราชการ จำนวน 1 ราย พนักงานกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 245 ราย และลูกจ้างชั่วคราวจำนวน 47 ราย รวมทั้งสิ้นจำนวน 639 ราย โดยให้มีการถ่ายโอนฯ ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2565 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ถือเป็นหน่วยบริการด้านสุขภาพระดับปฐมภูมิ ที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนจึงเป็นภาระหน้าที่สำคัญยิ่งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับมาดำเนินการ วันนี้ แม้ รพ.สต. จะเปลี่ยนสังกัดจากกระทรวงสาธารณสุขมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด แต่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ ก็ยังเป็นเครือข่าย ให้กับ รพ.สต. ทุกแห่งเหมือนเดิม ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจในระบบสุขภาพท้องถิ่น ซึ่ง รพ.สต.จะเป็นด่านแรกในการดูแล ส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในพื้นที่แบบองค์รวม และ อบจ.จะสร้างการเชื่อมโยงระบบใหญ่ พร้อมทั้งขยายการบริการ เพิ่มเติมบุคลากรสาธารณสุขที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาสุขภาพในทุกมิติที่สอดรับกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยมีหน่วยงานด้านสาธารณสุขเป็นฝ่ายสนับสนุน อีกด้วย
@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
Discussion about this post