![](https://i0.wp.com/www.talknewsonline.com/wp-content/uploads/2022/11/758C4E4C-FBB0-40CD-8EF3-22A6CBC9AD32.jpeg?resize=640%2C395&ssl=1)
วันนี้(1 พ.ย.65) นายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง กล่าวว่า กรณีนกแอร์หยุดทำการบินเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนราคาตั๋วเครื่องบินสูง แต่ที่ผ่านมาทำตลาดได้เพราะรัฐบาลและ ททท. สนับสนุน โดยที่ผ่านมาสายการบินนกแอร์ ได้เปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ(ดอนเมือง) -เบตง (ยะลา) 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร ศุกร์ และอาทิตย์ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว(สธทท.), และบริษัททัวร์ต่างๆ ที่ร่วมกันจัดแคมเปญ “เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์เบตง ” และหลังสิ้นสุดแคมเปญ “เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์เบตง เฟส 2”ในสิ้นเดือน ต.ค.65 จะมีการยุติการเหมาที่นั่งนกแอร์เส้นทาง กรุงเทพ – เบตง เนื่องจากทางสายการบินนกแอร์อ้างว่ามีต้นทุนสูงมากในการบินตรงมาเบตง
ส่วนหลังจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร โดยนายภาณุ อุทัยรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเบตง ได้หารือกับทาง บางกอกแอร์เวย์ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า จะเปิดบินเส้นทาง “หาดใหญ่ – เบตง – หาดใหญ่” ใช้ระยะเวลา 25 นาที และราคาอยู่ที่ประมาณ 1.200 -1.500 บาท ถูกกว่าบินตรงจาก กรุงเทพ-เบตง โดยขณะนี้กำลังเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ปลัดกระทรวงคมนาคมอนุมัติ จากนั้นจะมีการเซ็นเอ็มโอยูระหว่างกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตั้งแต่เปิดบริการช่วงปลายเดือน เม.ย.65 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้โดยสาร ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารแบบกรุ๊ปทัวร์ประมาณ 80-90% ขณะที่ผู้โดยสารทั่วไปประมาณ 10-20%
ด้านกรมท่าอากาศยาน แจ้งว่า ขณะนี้กลุ่มที่ปรึกษาโครงการออกแบบงานก่อสร้าง พร้อมศึกษาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ขยายทางวิ่ง(รันเวย์) ทางขับ(แท็กซี่เวย์) ลานจอดเครื่องบิน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน และส่วนประกอบอื่นๆ ท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา ได้ส่งผลการศึกษาฯ มายังกรมท่าอากาศยาน แล้ว และจะเสนอผลการศึกษาต่อสำนัก งานการบินพลเรือนแห่งประเทศ ไทย (กพท.) และกระทรวงคมนา คม ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมน ตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป และเปิดบริการประมาณปี 71 สำหรับการขยายรันเวย์ครั้งนี้ จะเพิ่มความยาวจากเดิม 1,800 เมตร เป็น 2,500 เมตร เพิ่มขึ้น 700 เมตร โดยขยายไปทางทิศตะวันตก 375 เมตร และทางทิศตะวันออก 325 เมตร เมื่อแล้วเสร็จจะรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ 180 ที่นั่งได้ อาทิ แอร์บัส A320 และโบอิ้ง B-737 จากปัจจุบันรองรับได้เพียงเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง อาทิ Q400 และ ATR 72 นอกจากนี้จะขยายลานจอดอากาศยานจากเดิมที่มีขนาด 94×180 เมตร เป็นขนาด 94×240 เมตร ทำให้สามารถจอดอากาศยานขนาด 180 ที่นั่งได้พร้อมกัน 3 ลำ ส่วนสาเหตุที่ไม่สร้างรันเวย์ให้ยาว 2,500 เมตรไปในคราวเดียวไม่ต้องมาขยายเพิ่มเติมอีก เนื่องจากการออกแบบรันเวย์ขึ้นอยู่กับความจำเป็น การศึกษาเมื่อปี 50 พบว่าจะมีปริมาณผู้โดยสาร และเที่ยวบินในขนาดรันเวย์ที่ 1,800 เมตร รองรับได้อย่างเพียงพอ เมื่อเวลาผ่านไปการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินเปลี่ยนไปจึงขยายเพิ่มภายหลัง.
ด้านนางกรณิช สุขการ ผอ.ท่าอากาศยานเบตง เปิดเผยว่า นกแอร์ ทำการบินครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2565 ที่ผ่านมาขณะเดียวกันทางสนามบินยังคงเปิดทำการตามปกติ โดยมี จนท.ยังคงทำงานตามปกติ โดยทุกวันนี้มีผู้มาเยี่ยมชมที่ท่าอากาศยายเบตงบางวัน 100 – 200 คน มากสุดวันละ 300 คน โดยเข้ามาถ่ายภาพเยี่ยมชมอาคารสนามบิน นอกจากนี้ทางสนามบินยังคงมีการก่อสร้างจุดตรวจค้นรถยนต์และยานพา หนะ บริเวนหน้าท่าอากาศยานและก่อนเข้าพื้นที่เขตการบิน เพื่อรองรับการเข้า-ออกท่าอากาศยาน
ขณะที่คนในพื้นที่สะท้อนราคาตั๋วโดยสารไม่จูงใจ เพราะสูงเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ในพื้นที่ อ .เบตง บางแห่งต้องปิดตัวลง แต่ถ้าหากมีโครงการเราเที่ยวด้วยกันอีก ก็จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเดินทางมาเบตงได้มาก โดยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างบอกว่าโครง การดังกล่าว สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวได้มากโดยราคามัดรวมกันแล้วไม่ถึง 10,000 บาทโดยใช้เวลาท่องเที่ยวใน เบตง 2วัน 3 คืนที่ผ่านมา รัฐ บาลและ ททท.ได้ให้การสนับสนุน รวมทั้ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว(สธทท.)และบริษัททัวร์ต่างๆ ได้ร่วมกันจัดแคมเปญที่ผ่านมามีการบินต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร ศุกร์ และอาทิตย์ ก็มีผู้โดยสารเต็มทุกเที่บวบิน
สำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ (ดอนเ มือง)-เบตง นั้น ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่เบตง มองว่าเบตงยังบอกว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง เพียงแต่ว่าสถาน การณ์โดยรวมของการท่องเที่ยววันนี้เปลี่ยนไป คือในวันที่สายการบิน นกแอร์ เปืดให้บริการเส้นทางบินตรงสู่ “เบตง” นั้น ในขณะนั้นหลายประเทศยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ทำให้ทั้งผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและคนทั่วไปให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่วันนี้หลาย ๆ ประเทศได้เปิดประเทศแล้ว คนไทยต่างมีทางเลือกมากขึ้น และหันไปสนใจไปท่องเที่ยวต่างประ เทศแทน เช่นเดียวกับผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวที่มีทางเลือกมากขึ้น และหันไปทำแพ็กเกจทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศกันเป็นอย่างมากเช่นกัน.
Discussion about this post