
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 13.30 .ภายใต้การอำนวยการของนายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย โดยนายสมพงค์ ชมชัย นายอำเภอศรีสัชนาลัย พ.อ. ศักดิ์สิทธิ์ นิลจันทร์ รอง ผอ.รมน.จังหวัด พร้อม กพ. ลง พื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีประชาชนแจ้งเบาะแสผ่านระบบสายด่วนความมั่นคง 1774 ว่ามีการลักลอบตัดไม้หวงห้ามในพื้นที่ ม.1 บ้านห้วยไคร้ ต.ดงคู่ อ.ศรีสัช นาลัย จังหวัดสุโขทัย โดยระบุชื่อ นายซาเล็บ บุญเพชร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน มีพฤติกรรมลักลอบตัดไม้ต้องห้าม (ไม้สัก) ขนย้ายมาเก็บไว้ในบริเวณบ้านตนเอง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จากการลงตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับแจ้งเบาะ แส ซึ่งเป็นบ้านของ นายซาเล็บ บุญเพชร พบว่าบริเวณหลังบ้านมีไม้สักท่อนนำมากองไว้เป็นจำนวนมาก นับได้ทั้งหมด จำนวน 122 ท่อน เบื้องต้น นายซาเล็บ บุญเพชร แจ้งว่าไม้ดังกล่าวมีเอกสารการขออนุญาตอย่างถูกต้อง จึงได้ให้ นายนิเวช จอมประเสริฐ พนัก งานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สท.8(ห้วยไคร้) ตรวจสอบเอกสารที่มาของไม้จำนวนดังกล่าวอย่างละเอียด พบว่าไม้ทั้งหมดตัดมาจากสวนป่าในพื้นที่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียง และมีเอกสารสิทธิ์ มีการทำหลักฐานขออนุญาตอย่างถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2562 ที่ประกาศใช้เมื่อ 17 เม.ย. 2562 มีผลให้ไม้ทุกชนิดที่เกิดในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม ดังนั้น การทำไม้ การแปรรูปไม้ และการนำเคลื่อนย้ายไม้ที่ขึ้นในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน สามารถกระทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากพนัก งานเจ้าหน้าที่

จากนั้น พ.อ.ศักดิ์ สิทธิ์ นิลจันทร์ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ท. จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายนิเวช จอมประเสริฐ พนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สท.8(ห้วยไคร้) พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้, นายเสฏฐวุฒิ ประมวล ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอศรีสัชนาลัย พร้อม จนท. อส.ร.ต.อ.ชัยณรงค์ อุตบัววงค์ รอง สว.สภ.ศรีสัชนาลัย และนายจะเล ชูเชิด กำนันตำบลดงคู่ ร่วมตรวจสอบไม้สักท่อนจำนวนดังกล่าว พบว่าตรงตามเอกสารที่ได้ขออนุญาต หลังจากนั้น จึงได้เดินทางไปยังสวนป่าฯ ซึ่งอยู่บริเวณ ม.6 บ้านห้วยล้อทอง ต.ด่านแม่คำมัน อ.ลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่นายซาเล็บ บุญเพชร แจ้งในใบขออนุญาตว่านำไม้มาจากสวนป่าดังกล่าว จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าพื้นที่ป่ามีเอกสารสิทธิ์มีเนื้อที่ รวม 360 ไร่ มีต้นไม้สักในพื้นที่ ประมาณ 2,000 ต้น มีร่องรอยการตัดไม้และนำไม้ออกจากสวนป่าตรงตามที่ได้ขออนุญาตไว้ตามเอกสาร จริง
ทั้งนี้ พ.อ. ศักดิ์สิทธิ์ นิลจันทร์ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ท.ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพยากรป่าไม้ และให้ นายนิเวชฯ ได้ชี้แจ้งข้อกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ให้รับทราบ และนำไปประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้กับประชา ชนในพื้นที่ของตนเองทราบต่อไป.
Discussion about this post