นนทบุรี – ตามนโยบายของรัฐบาลโดย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐ กิจและสังคม และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ ให้ถือเป็นนโยบายสำคัญ โดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันปราบปรามมิจฉาชีพและอาชญากรรมออน ไลน์อย่างจริงจัง รวมถึงการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้บริโภคในการใช้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน กรณีพบการลักลอบนำเข้าสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อนำมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการขายสินค้าที่ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9 /2558 เรื่องห้ามขาย หรือห้ามให้บริการ “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า”ลง 28 ม.ค.58 จึงประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ในการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า มีการลักลอบนำเข้าสิน ค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากจากต่างประเทศเพื่อนำโฆษณาขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพจเฟซบุ๊ก“thisissaltsofficia” ผ่านเว็บไซต์ https://www.thisissalts.com/ และอินสตราแกรม @ thisissalts_official ใช้วิธีขนส่งผ่านทางไปรษณีย์ไทย อำพรางเป็นพัสดุไปรษณีย์ซึ่งสำแดงเป็นผลิตภัณฑ์อื่น จากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ส่งมาที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรีซึ่งพัสดุจะมาถึงที่ทำการไปรษณีย์หนองแคในวันที่ 16 พ.ย.65 จึงได้ประสานความร่วมมือเปิดปฏิบัติการ“ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าไทย-มาเลเซียรายใหญ่”
โดยเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2565 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโน โลยี (บช.สอท.) นำโดย พล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. สอท. ,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. , พล.ต.ต. วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2 , พ.ต.อ. มรกต แสงสระคู ผกก.1 บก.สอท.
2 พร้อมกำลังตำรวจ กก.1 บก. สอท.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. หนองแค จว.สระบุรีร่วมกับ สำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) นำโดย พ.ต.อ. ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการ สคบ. , นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผอ.ส่วนบังคับคดี กองกฎหมายและคดี, นายประยงค์ เฉลิมทิศ นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ , ว่าที่ร้อยตรีพลพฤกษ์ วงศาโรจน์ นักสืบสวนสอบสวน, นายเอกวิทย์ แสงเงิน นักสืบสวนสอบสวน , พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้แทน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐ กิจและสังคม และ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยนายจิระวัฒน์ อยู่สบาย รักษาการ ผอ.กองงานคณะกรรมการควบ คุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ร่วมกันจับกุม นายสันติ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปีซึ่งเป็นผู้รับพัสดุที่ทำการไปรษณีย์หนองแค โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น แอล200 หมายเลขทะเบียน บพ 4558 สระบุรี และได้ขนลังพัสดุจำนวนมากขึ้นบรรทุกไว้ที่ท้ายรถ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนและขอทำ การตรวจสอบพัสดุดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 46 ลัง ภายในลังบรรจุ 150 กล่อง และภายในกล่องบรรจุ 10 ชิ้น รวมจำนวนประมาณ 64,000 ชิ้น ซึ่งมูลค่าในท้องตลาด ซื้อขายราคาชิ้นละ 200-400 บาท รวมมูลค่าประมาณ 13,500,000 บาท นายสันติฯ รับว่าได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.มิกซ์ ให้มารับน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวไปส่งที่ บ้านเลขที่ 89/37 ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จว.สระบุรีจับกุมในข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งห้ามขาย หรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มาตรา 29/9, 56/4 และคำสั่งคณะกรรม การคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ลง 28 มกราคม 2558” โดยจับกุมได้ที่ ที่ทำการไปรษณีย์หนองแค จังหวัดสระบุรี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ สคบ.จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดสระบุรีออกหมายค้นที่ ค.196/ 2565 ลง 16 พ.ย.65 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 89/37 ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จว.สระบุรี ผลการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า รวมจำนวนประมาณ 229 ลัง หรือประมาณ 160,000 ชิ้น มูลค่าในท้องตลาดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 37,000,000 บาท จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และพบว่าบ้านหลังดังกล่าวใช้เป็นสำนักงานและสถานที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า สำหรับจำ หน่ายผ่านทางออนไลน์
จากการสืบสวนขยายผลยังพบข้อมูลอีกว่ายังมีบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าอีกจำนวนหนึ่งที่อำพรางเป็นพัสดุ ไปรษณีย์ ซึ่งสำแดงเป็นผลิต ภัณฑ์อื่น จากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ส่งมาที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี และจะมาถึงที่ทำการไปรษณีย์หนองแคในวันที่ 17 พ.ย.65 ขณะนี้พัสดุดังกล่าวอยู่ที่ศูนย์ไปรษณีย์พระนคร ศรีอยุธยาเพื่อรอนำจ่าย เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปที่ศูนย์ไปรษณีย์พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบผลการตรวจสอบพบพัสดุจำนวน 20 ลัง มีชื่อผู้รับคนเดียวกันกับพัสดุที่ยึดได้ที่ไปรษณีย์หนองแค เมื่อเปิดตรวจพบ 1. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 29,000 ชิ้น 2. อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า (Pod) จำนวน 4,000 ชิ้น มูลค่าในท้องตลาดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,500,000 บาท จึงตรวจอายัดและยึดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ผลการปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าได้เป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าในท้องตลาดคิดเป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโน โลยี (บช.สอท.) ยังคงมุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบังคับใช้กฎหมาย ดำเนินการเชิงรุก ปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน และการอำนวยความยุติธรรม เพื่อบำบัดทุกข์และบำรุงสุขของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ตามวิสัยทัศน์ของ พล.ต.อ. ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ผบ.ตร. ที่ว่า“เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชา ชน” ทั้งหากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี เลขที่ 904 ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ (รัชกาลที่ 10) ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120หรือwww.thaipoliceonline.com.
Discussion about this post