ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานข่าวกรณีที่คุณแม่วัย 49 ปี พักอยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง ร้องขอความช่วยเหลือกจากผู้สื่อข่าวประ จำจังหวัดพัทลุง หลังลูกสาววัย 14 ปี ชื่อเล่นน้องเฟิร์น นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงเรียนกินนอนเด็กที่ประสบปัญหาครอบืครัว และมีฐานะยากจน ถูกเพื่อนหลอกให้ไปในห้องน้ำโรงเรียนแล้วให้รุ่นพี่ข่มขืน จนน้องต้องตกเป็นเด็กซึมเศร้า และไม่กล้าเล่าให้ผู้ปกครองหรือครูทราบ จนกระทั้งนานวันถูกเพื่อนล้อว่าเธอถูกกระ ทำอานาจารเลยต้องเก็บกดอดทน แต่สุดท้ายทนไม่ไหว โทรร้องขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่ว่าให้รีบมารับลูกกลับบ้านไม่อั้นลูกอาจจะมีอันเป็นไป ลูกอยากฆ่าตัวตาย แต่ไม่บอกปัญหาว่าสาเหตุมาจากเรื่องอะไร จนกระทั้งแม่รับกลับมาบ้าน แต่ลูกสาวชอบหลบในห้อง ชอบเก็บตัวคนเดียว จนกระทั้งแม่สอบถามเลยบอกและเล่าเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น ผู้เป็นแม่จึงพาลูกสาวไปแจ้งความต่อ ร.ต.ท. หญิง จารุมน อัตบุตร ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ 09.30 น. 18 พ.ย. ทางพนักงานสอบสวน ได้เรียกแม่และเด็กหญิงมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน พร้อมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมพัทลุง บ้านพักเด็กและครอบครัว เข้าร่วมสอบ เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กหญิงคนดังกล่าว
โดยแม่ของเด็ก กล่าวว่า เมื่อคืนหลังจากกลับจากแจ้งความทางผู้บริหารของโรงเรียนได้ให้นักการเมืองทั้งถิ่น เข้าเคลียร์ เพื่อขอชด ใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 2 แสนบาท แลกกับการถอนแจ้งความและไม่ให้เอาผิด เพราะทำ ให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ผู้เป็นแม่ยืนยันจะไม่ถอนและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เวลาลูกแม่โดนย่ำยี สร้างตราปาบให้ลูกตลอดชีวิต ครู ผู้อำนวยการโรง เรียนเคยมีความรู้สึกอะไรมั๊ย
ขณะที่น้องวัย14 ปี ยังเล่าอีกว่าภายในโรงเรียน นั้นเด็กมีมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก หากไม่เข้าร่วมกับก๊วนใหญ่ก็จะถูกกระทำแบบตน โดยทางผู้บริหารก็ดูแลไม่ทั่วถึง สำหรับเด็กรุ่นพี่ที่เป็นผุ้ชายนั้นเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้บริหารโรงเรียน แฃละบ้างครั้งก็จะนำเด็กรุ่นพี่ไปช่วยงานที่บ้าน ช่วยตัดหญ้าให้วัวชน พร้อมทั้งตัดปาล์มน้ำมันให้ ทำให้รุ่นพี่คนดังกล่าว ไม่ค่อยจะกลัวใคร แม้จะสร้างปัญหาและก่อเหตุอนาจารนักเรียนคนก่อนหน้านี้ ก็ยังมีคน ออกมาปกป้อง ซึ่งตนเองที่ออกมาพูดเรื่องนี้ไม่ได้เรียกร้องเงิน แค่เรียกร้องความถูกต้อง และการเปลี่ยนแปลงภายในโรงเรียนประจำที่ให้เด็กด้อยโอกาสได้เรียน
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า โรงเรียนที่เกิดเหตุนั้น ไม่ได้ขึ้นกับเขตพื้นที่การศึกษาพัทลุง หรือสำนักงานประถมศึกษาพัทลุง แต่อย่างไดจึงไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลได้ โดยโรงเรียนดังกล่าวขึ้นอยู่กับกระทรวง
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามได้พยายามติดต่อไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุเพื่อขอคำชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถติดต่อทางผู้บริหารของโรงเรียนได้ ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดีนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้า ที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพัทลุง ได้เดินทางมาพบกับเด็กหญิงผู้เสียหาย ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทลุง โดยได้มีการพูดคุยกับเด็กหญิงและทางครอบครัว ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและเบื้องต้นพร้อมเข้าเยี่ยวยาสภาพจิตใจของน้องผู้หญิงที่เสียหาย
ด้านนางสาวปราณี เรืองพุทธ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพัทลุง กล่าวว่าหลังได้พบเด็กหญิงที่เสียหายพบว่าสภาพจิตใจน้องย่ำแย่ ต้องเร่งฟื้นฟูทางสภาพจิตใจ โดยสัปดาห์หน้าจะนำน้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพัทลุง เพื่อฟื้นฟู พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันในวันนี้ 17 พย.65 หลังจากผู้เป็นแม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง ก่อนได้นำไปแจ้งความต่อ ร.ต.ท.หญิง จารุมน อัตบุตร ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าววไปแล้วนั้น และเมื่อเที่ยงของวันนี้ปลัดกระทรวงศึกษาธิ การได้สั่งการให้ นายพันเทพ สุวรรณขันธ์ ศึกษาธิการจังหวัดพัทลุง ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่โรงเรียน โดยได้ร่วมประชุมกับผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมครูที่ปรึกษานานกว่า 1ชั่วโมง ก่อนออกมาเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่อง แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่ว่าผู้เสียหาย โรงเรียน และผู้กระทำ เนื่องเด็กหญิงที่เสียหายเป็นเยาวชน และผู้ก่อเหตุก็เป็นเยาวชน ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องรวมกันแก้ไขหลายๆฝ่าย
ขณะเดี่ยวกัน ศึกษาธิการจังหวัดพัทลุงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ห้องน้ำหลังอาคารโรงฝึกงาน เป็นห้องน้ำเก่าที่ประตูห้องน้ำพังเสียหายทำให้เด็กถูกลากเข้าไปย่ำยี และหลังเกิดเหตุทางโรง เรียนได้เปลี่ยนประตูห้องน้ำใหม่แทนส่วนเด็กผู้เสียหาย ทางพนัก งานสอบสวนได้นำตัวเด็กไปสอบ สวนโดยมีสหวิชาชีพเข้าร่วม ที่สำนักอัยการจังหวัดพัทลุงในช่วงบ่ายที่ผ่านมา
ขณะที่นายนริศ ขำนุรักษ์ สส. พัทลุง ระบุว่า เหตุการณ์เด็กถูกข่มขืนในโรงเรียน ถือเป็นการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างเห็นได้ชัด จึงอยากเรียกร้องให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงทำคดี เพราะเรื่องดังกล่าว มีเยาวชนก่อเหตุหลายคนในลัการะรุมโทรม โดยตนจะทวงถามในสภา ให้กระ ทรวงศึกษาธิการออกมารีบแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานของโรงเรียน.
Discussion about this post